วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ไม่ขอคาดหวังอะไรอีกแล้ว....

Rating:
Category:Other

ตอนเด็กๆยิ้ม มีโอกาสได้ไปเยือนทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอจังหวัดแม่ฮ่องสอนอยู่สองครั้ง

ครั้งหนึ่งเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ช่วงที่ดอกไม้สีเหลืองทองสะพรั่งกำลังอวดความงามเต็มที่แก่สายตาผู้มาเยือน ภาพนี้เป็นภาพความงามสากล หมายถึงเป็นภาพที่ใครเห็นก็ยอมรับว่าทำให้จิตใจสดชื่นเบิกบานจนถึงกับต้องดั้นด้นเดินทางผ่านเส้นทางคดโค้งเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย

การเดินทางเยือนแม่อูคออีกครั้งเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อช่วงฤดูฝน...ช่วงที่ไม่มีดอกบัวตองสีสดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ดังเช่นในฤดูหนาว ท้องทุ่งบนโขดเขินเนินสูงและหน้าผาลาดต่ำดูเขียวขจีให้ความสดชื่นไปอีกแบบ ในวันนั้น...ยิ้มลองหลับตา เมื่ออยู่ต่อหน้าท้องทุ่งสีเขียวต่างระดับที่ไล่ตั้งแต่เขียวอ่อนไปจนถึงเขียวแก่ ภาพท้องทุ่งสีทองปรากฏแก่สายตาอย่างง่ายดาย ดุจภาพที่พิมพ์ไว้ในดวงจิต แม้ตาเนื้อจะมองเห็นแค่ความงดงามของทุ่งข้าวโพดและพืชไร่ แทนที่จะเป็นไม้ดอกประจำถิ่น แต่ตาในสัมผัสได้ถึงอิทธิพลของทุ่งสีทองที่ทิ้งรอยเอาไว้ให้แก่ผู้เคยทอดทัศนา

ยายของยิ้มชื่อบัวตอง...และวันนี้ดอกบัวตองดอกนี้ก็ไม่มีเสียแล้ว แต่อย่างน้อยยิ้มยังจดจำภาพเก่าๆ และความทรงจำดีๆ ระหว่างเราได้เสมอ
..............................................................

เกริ่นนำมาขนาดนี้...ผู้อ่านคงรู้แล้วใช่ไหมคะ ว่ายิ้มกำลังจะพิมพ์อะไรต่อไป ใช่ค่ะ...ยายของยิ้มเดินทางข้ามผ่านภพนี้ ไปสู่ดินแดนใหม่แล้ว ไปสู่ดินแดนอันสุขสงบ เป็นชีวิตที่ดีกว่าเดิมแน่ๆ รอยยิ้มนิดๆ ของยายบอกไว้อย่างนั้น

น่าเสียดายที่มันเป็นรอยยิ้ม...ที่ยิ้มไม่มีโอกาสได้เห็น ทำได้เพียงแค่ฟังคำบอกเล่าของคนที่ได้กล่าวคำอำลา แม้ว่าขณะนี้ยิ้มจะอยู่แค่เชียงใหม่ ห่างไกลจากบ้านยายแค่ประมาณ 40 กิโลเมตรเท่านั้นเอง

ในที่สุด...ยิ้มก็ได้เรียนรู้เสียที...ว่าเราไม่สามารถไปกะเกณฑ์อะไรได้เลย เหมือนตัวยิ้มเองที่หวังจะได้กล่าวคำลากับญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรัก แต่ก็ไม่สามารถจะทำได้ทั้งที่โอกาสอยู่ห่างออกไปแค่เอื้อมมือ เพราะเรามีภารกิจที่สำคัญพอกันประการอื่น

ชีวิตของยิ้มช่วงนี้มันคาดเดาไม่ได้เลยค่ะว่าวันต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เดิมคิดเอาไว้ว่ากลับมาปุ๊บจะเร่งทำงานแต่มาถึงจริงๆ สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้ยิ้มได้ปลีกตัวออกไปทำงานได้เลย บล็อกเก่าๆ อาจจะเขียนไว้คลุมเครือ ไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่บล็อกนี้...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เล่าหมดเลยก็ได้ค่ะ

เรื่องมันเริ่มต้นจากพ่อของยิ้มเส้นเลือดในสมองแตกกลางที่ประชุม ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเวลาทั้งสิ้นราวๆ 3 อาทิตย์ ในช่วงเวลาที่สนามบินสุวรรณภูมิถูกปิด และปู่ก็มาเสียในเวลาไล่เลี่ยกัน ทางบ้านตัดสินใจไม่บอกอะไรยิ้มเลยเพราะบอกไปก็กลับไม่ได้และยังมีงานคั่งค้างอยู่ ปล่อยให้กลับบ้านตามกำหนดเดิมคือปลายเดือนธันวาคมดีกว่า กลับมาถึงบ้านก็ตกใจ ที่พ่อเราไม่เหมือนเดิม แถมปู่ก็ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว เวลาผ่านไป...พอยิ้มเริ่มทำใจกับความจริงได้ แม่จ๋าก็เริ่มแสดงอาการกระเสาะกระแสะ เจ็บหน้าอกแน่นหน้าอกขึ้นมาบ้าง ช่วงนั้นส่งพ่อส่งแม่เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ประหนึ่งว่ากลับมารับจ๊อบเสริมเป็นคนขับรถพยาบาล

ความวุ่นวายค่อยๆ ซาลงเมื่อปลายเดือนมกราคม เชื่อมต่อกับต้นเดือนกุมภาพันธ์เหมือนกับว่ามันเป็นช่วงลมสงบก่อนพายุจะมาจริงๆ ไม่นานนักยายก็ป่วยหนัก กินข้าวไม่ได้ และพูดไม่ได้ตามลำดับจนแม่จ๋าต้องไปปักหลักอยู่ที่ลำพูน และยายก็จากเราไปหลังจากวันเกิดของแม่จ๋าแค่วันเดียว…ในขณะที่ยิ้มต้องปักหลักดูแลพ่อจ๋าอยู่เชียงใหม่

ยิ้มก็คิดว่าถึงจะไม่ได้กล่าวคำลา..แต่อย่างน้อยก็ได้ไปงานศพ ไม่เหมือนตอนปู่จากไป แต่แล้วความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน หลังจากสวดอภิธรรมไปได้คืนเดียว แม่จ๋าก็ปวดท้องจนถึงขั้นดิ้นพล่านบนเตียง อาเจียนถึง 3 รอบ จนต้องพาส่ง รพ. ในกลางดึกคืนนั้นเอง ตอนแรกเราก็คิดว่าเป็นแค่โรคกระเพาะอาหาร ให้ยาเคลือบแล้วก็กลับได้ แต่กลับต้องเข้านอน รพ. กะทันหัน เพราะหมอเอ็กซเรย์แล้วเจอนิ่วในท่อไต มันขวางทางเดินปัสสาวะจนไตข้างขวาบวม อักเสบ มีของเหลวภายในต้องจัดการเอาออกด่วน เพราะแม่จ๋ามีภาวะโรคเบาหวาน ทิ้งไว้นาน ไตติดเชื้อคงไม่ดี เพราะเดิมไตก็อ่อนแอมากพออยู่แล้ว

ดังนั้น...ยิ้มก็ต้องอยู่ที่นี่ ทำเรื่องส่งตัวเข้ารพ. จองห้องพิเศษ พาขึ้นห้อง เก็บข้าวของของตัวเองและของพ่อจ๋ามาเตรียมนอนเฝ้าที่ รพ. ขนสัมภาระร้อยแปดขึ้นห้องพักที่ รพ. ฯลฯ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนคืนนั้นไม่ได้นอนทั้งคืน เวลา 48 ชั่วโมงที่ผ่านไป ได้นอนถึง 5-6 ชั่วโมงหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ เพราะแต่ละครั้งไม่เคยงีบได้นานเกิน 20 นาที พอแม่จ๋าขยับตัวก็ผงกหัวขึ้นดูแล้ว พยาบาลเข้ามาก็ตื่นขึ้นมาดู จนวันนั้นเหนื่อย ล้า มึนงงไปหมด และที่สำคัญก็คือ...ไม่ได้ร่วมงานส่งยายไปสู่สัมปรายภพ แต่ก็ต้องเข้าใจในสภาพปัญหา พยายามทำให้ดีที่สุด และแก้ไขให้ดีที่สุดไปทีละเปลาะๆ

สงสารแม่จ๋าเมื่อคืนก่อนจริงๆ แม่จ๋าปวดท้องมาก บอกว่าปวดยิ่งกว่าคลอดลูกเสียอีก แถมกินอะไรไม่ได้เลย กินไปก็อาเจียนออกมาหมด หมอบอกว่า...มีอยู่สองทางคือผ่าเอานิ่วออก หรือสอดกล้องเข้าไปทางท่อปัสสาวะ และปล่อยคลื่นทำให้แตกออกเป็นชิ้นๆ วิธีแรกค่าใช้จ่ายน้อยกว่า แต่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน วิธีที่สองค่าใช้จ่ายมากกว่า แต่อาจจะทำให้มีโอกาสไปงานเผาของยาย ก็เลยตกลงกันว่าเอาวิธีสอดกล้องก็แล้วกัน เพราะถ้าฟื้นตัวไวอาจจะได้ไปงานของยายอยู่ สักวันก็ยังดี และถ้ารอ..แม่จ๋าก็คงทนไม่ไหวแน่ๆ ถึงจะเป็น รพ. เอกชนแพงระยับ เบิกได้น้อยนิดก็ต้องยอมล่ะ เพราะถ้าจะให้ไปรอคิวโรงพยาบาลของรัฐ ไตของแม่จ๋าคงยิ่งชำรุดกว่านี้

ยิ้มก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าชีวิตของยิ้มมันทำไมเจอกับอะไรวุ่นวายมากมายในช่วง 3 เดือนนี้ ปู่ ยาย จากไปใกล้ๆ กัน พ่อก็ป่วยหนักจนตอนนี้ยังไม่เหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์เลย แม่ก็ถึงกับต้องเข้า รพ. เหมือนกัน ยิ้มจึงไม่มีสิทธิ์จะเป็นอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นป่วย อ่อนแอ ท้อแท้ หรืออะไรก็ตาม อย่างน้อยก็ยังดีที่เราอยู่ ไม่อย่างงั้นพ่อจ๋าต้องเฝ้าแม่จ๋าเอง คงจะน่าสงสารกว่านี้

คนที่จิตใจแข็งแรงอาจจะมองว่าเรื่องแค่นี้เอง...นิดหน่อย คนที่เจอปัญหาหนักกว่านี้มีอยู่เยอะแยะ แต่ขอประกาศตัว ว่ายิ้มไม่ใช่คนที่จิตใจแข็งแรงขนาดนั้น จึงยังต้องการกำลังใจ หรืออย่างน้อย ขอแค่ความเข้าใจก็ยังดี ขอด้วยนะคะ อย่างน้อยก็ในช่วงนี้ 4-5 วัน

ขอบคุณที่รับฟังคำระบายเล็กๆ แล้วยิ้มจะกลับมาเขียนถึงยายใหม่นะคะ จริงๆ วันนี้ตั้งใจจะเล่าเรื่องยายแต่ว่าเขียนไปเขียนมามัน...อยากระบายมากกว่า ยิ้มมีเรื่องเล่าเก่ยวกับวีรกรรมของยายมากมาย อ่านแล้วคงนึกถึงคืนวันเก่าๆ ของป่าซางได้บ้าง เจอกันบล็อกหน้าค่ะ

17 ความคิดเห็น:

Krisiri Kanthasate กล่าวว่า...

พี่เสียใจด้วยนะยิ้ม ขอเป็นกำลังใจให้แม่จ๋าและครอบครัวของยิ้มนะจ๊ะ สู้ๆ น้า

panuwat charoenphol กล่าวว่า...

สู้ๆน้องยิ้ม คิดซะว่าตอนนี้คงแย่ที่สุดแล้วหล่ะ จากวินาทีนี้ไปมันต้องดีขึ้นเรื่อยๆ เนอะ ^_^

a mossy กล่าวว่า...

สู้ๆนะน้องยิ้ม อ่านแล้วก็เหนื่อยทั้งกายทั้งใจแทนเลย

พี่ก็นึกภาพตัวเองไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าเป็นพี่จะทำได้อย่างยิ้มรึเปล่า

แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวอะไรๆก็จะค่อยๆผ่อนคลายขึ้นนะ

พี่เป็นกำลังใจให้เน่ออออ สู้ๆๆ

Nu.. Si Ja กล่าวว่า...

ขอเป็นกำลังใจให้น้องยิ้ม สู้ๆ นะจ๊ะ
ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ เข้มแข็งไว้นะ

Charnchai Leuwattanachotinan กล่าวว่า...

ขอแสดงความเสียใจและเป็นกำลังใจให้นะยิ้ม..
อ่านแล้ว.. เรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตยิ้มตอนนี้ หนักอึ้งจริงๆ.. แต่สุดท้ายแล้ว.. มันก็จะผ่านไป..
ขอให้เข้มแข็งไว้.. may the force be with you.

pong photo กล่าวว่า...

สู้ๆนะน้องยิ้ม ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวน้องยิ้มผ่านพ้นอุปสรรค์ต่างๆ

ด้วยอำนาจคุณพระพุทธ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์
ขอกุศลคุณความดีที่ได้บำเพ็ญแล้วส่งถึงเจ้ากรรมนายเวรของคุณพ่อคุณแม่น้องยิ้ม
ได้อโหสิกรรมเเละโมทนาในกุศลคุณความดี
ส่งผลให้อาการป่วยทางกายคุณพ่อคุณแม่ของน้องยิ้มดีวันดีคืนนะครับ

Santi Santiago กล่าวว่า...

เสียใจด้วยนะครับยิ้ม...
แชมป์เชื่อว่ายิ้มจะต้องผ่านเหตุการณ์ช่วงนี้ไปได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะอย่างไง แชมป์ก็จะเป็นกำลังใจให้ยิ้มนะ...
นามปากกา..." ฟ้าปรายฝน "...ช่วงนี้ถึงแม้ฝนจะเต็มฟากฟ้า แต่ต่อให้ฝนตกลงมาหนักหนาแค่ไหน ยังไงเสีย..ก็ไม่อาจทำให้ฟ้าพังลงมาได้ แม้ว่าจะมีลมพายุกรรโชก...ลมพายุจะพักหนักหน่วงแค่ไหน ฟ้าย่อมมิโอนไหวไปพร้อมกับสายลม ต่อต้องให้ถึงวันธรณีแยก เชื่อว่าฟ้าคงไม่แตกดับสูญสลาย แม้วันนี้จะมีพายุฝนลมร้าย เมฆหมอกมากมายกล่นเกลื่อนฟ้า แต่เดี๋ยว..อีกไม่ถึงเสี้ยวเวลา...ฝนจะซา พายุจะหาย แสงตะวันจะค่อยๆสาดส่องปรากฏกาย ฟ้าใสใส..ฟ้าปรายฝน จะปรากฏมา....

Gift waidhaya กล่าวว่า...

เสียใจมากๆ ด้วยนะ

TT^TT

Thanit Lim กล่าวว่า...

สู้ๆ นะน้องยิ้ม เป็นกำลังใจให้เสมอ

Tao K กล่าวว่า...

พี่เสียใจกับการสูญเสียคุณยาย และเรื่องร้ายๆ ที่ยิ้มต้องเผชิญอยู่ในช่วงนี้นะครับ

ถือว่ายิ้มโชคดีที่ได้มีโอกาสอยู่เฝ้าไข้อาการป่วยของผู้มีพระคุณในยามนี้ บุญกุศลของผู้เป็นลูกที่ได้กตเวทิตานี้ จะส่งผลให้ท่านทั้งสองอาการดีขึ้นในเร็ววัน และจะทำให้ยิ้มประสบแต่ความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไปนะครับ

ยิ้ม และ เข้มแข็งไว้นะครับ ^_____^

Gift waidhaya กล่าวว่า...

เข้มแข็งไว้เน้อ

มีอะไรโทรบอกพี่ได้นะ ถ้าช่วยได้จะช่วยแบบไม่ลังเลเลยเน้อ ^ ^

Som Thaksa-on P. กล่าวว่า...

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะจ๊ะยิ้ม

Yim S. กล่าวว่า...

update เหตุการณ์

แม่จ๋าออก รพ. ไปเก็บกระดูกยายได้ 2 วัน ก็อาการกำเริบ ปวดเหมือนเดิม
จนต้องกลับมาเข้า รพ. อีกแล้วค่ะ T-T

ยังไม่ได้ทำงานเลย ไม่รู้ว่าต้องขยายวันลาอีกรอบหรือเปล่า

Santi Santiago กล่าวว่า...


ยังไงก็ขอให้คุณแม่ของยิ้มหายเร็วๆนะครับ
สู้ๆน๊า...

Heathrow :D กล่าวว่า...

อ่านแล้ว คงไม่รู้สึกแตกต่างกับคนอื่นๆครับ เห็นใจมากๆ ถ้าเป็นพี่คูณ พี่คงรับเรื่องราวเหล่านี้อย่างเข้มแข็งได้ไม่เท่าน้องยิ้มแน่ๆ ไม่คาดว่าน้องยิ้มจะเจอเรื่องราวเหล่านี้ในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่เดือนครับ

ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสีบ คุณปู่ กับ คุณยายนะครับ คงไม่มีอะไรจะทดแทนการสูญเสียครั้งนี้ไปได้

และขอเป็นกำลังใจให้คนในครอบครัวน้องยิ้มหายป่วยไวๆนะครับ

รวมทั้งตัวน้องยิ้มเองคงต้องทำอะไรหลายๆอย่างเลยช่วงนี้ ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับ อากาศมันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขอให้เข้มแข็งและผ่านคืนวันเหล่านี้ไปให้ได้โดยเร็วครับ

ด้วยผลบุญที่น้องยิ้มและครอบครัวได้ทำคงส่งผลคุ้มครองน้องยิ้มและครอบครัวให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นโดยเร็วนะครับ พี่ขออวยพรด้วยครับ

me myself กล่าวว่า...

น้องยิ้มคนเก่ง รักษาสุขภาพนะคะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวจะไม่สบายไป

ขอให้น้องยิ้ม มีกำลังใจเนาะ สิ่งที่จะเข้ามาถาโถมเราตอนนี้ ทำให้เราแกร่งขึ้น

พี่อยู่ข้างๆ น้องยิ้มเสมอนะจ้ะ บางครั้งอาจจะช่วยอะไรมากไม่ได้ทางกาย

แต่ทางใจ ทางที่น้องยิ้มจะบ่น จะระบายความเหนื่อยล้าต่างๆ ได้ ก็เล่ามันออกมาเถอะจ้ะ

อย่างน้อยสิ่งที่น้องยิ้มจะได้กลับไปคือกำลังของหัวใจ ที่มีแต่ความจริงใจ

และทำให้เรามีแรง

ทุกอย่างมันจะผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ พี่เชื่อในพลังความดีงาม ความกตัญญูของน้องยิ้มค่ะ

Gift waidhaya กล่าวว่า...

ง่า... อาการหนักมากหรือเปล่าอ่ะยิ้ม เดี๋ยวยังไงโทรหากันเน้อ