Rating: | ★★★ |
Category: | Other |
หลังจากญาติผู้ใหญ่สลับกันป่วยแล้ว ช่วงนี้...สุขภาพตัวเองก็เริ่มทรุดโทรมลงบ้างเหมือนกัน
พอย้ายออกจากลอนดอนไปยอร์ค ก็นานๆ จะป่วยหนักเสียที ด้วยความที่อากาศมันดีกว่ามาก เลยไม่ค่อยจะแพ้เท่าไหร่ กลับมาบ้านเรา แหง็ก...(บางทีอาจจะใช้สังขารทรหดไปหน่อยก็ได้มั้งคะ)
ที่ผ่านมาก็...สงสัยจะไข้หวัด นอนจับไข้อยู่แป๊บนึง เลยทำให้เกิดช่วงดาวน์ อะไรที่เขียนค้างๆ ไว้ก็พลอยจะไม่ได้เขียนต่อซะงั้น...
วันนี้อยู่ดีๆ ก็คิดถึงเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาน่ะค่ะ ดังที่จั่วหัวไว้
คือเรื่อง 'พรสวรรค์แห่งการฟัง'
ขอเข้าโหมดจริงจังหน่อยนะคะ ถ้าไม่อยากเครียด ข้ามไปได้...
สุ จิ ปุ ลิ คือหัวใจนักปราชญ์
หนึ่งในนั้นคือ สุตตะ ก็คือการฟัง
มั่นใจว่าเคยเรียนมาในวิชาภาษาไทย หรือไม่ก็พระพุทธศาสนาตอนเด็กๆ แน่ๆ ฟังอย่างไรให้ได้ความรู้ ฟังอย่างไรให้แตกฉาน ฟังแล้วคิด แล้วถาม แล้วจด พร้อมทั้งจำ (จิตตะ ปุจฉา ลิขิต) เพื่อจะนำไปปฏิบัติ
สิ่งเหล่านี้เรียนมามากมาย มีคนอบรมพร่ำสอนมาไม่น้อย บางคนพูดไปในเชิง strategic เลยด้วยซ้ำ ว่าการฟังทำให้รู้เขา รู้เรา รู้ใจคน ก็ชนะใจคนได้ รบร้อยคร้ง ชนะร้อยครั้ง
แต่จะมีใครสักคน..สอนอะไรง่ายๆ อย่างเช่น "การฟัง...ก็เป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างหนึ่ง" บ้างไหมคะ...
ตอนนั้นชีวิตดำเนินมา 15 ปี ขอยอมรับว่าไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้นเลย ตอนที่ซิสเตอร์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาชมรม 'เพื่อนทางจิต' ที่จัดขึ้นเป็นวิชาเลือกให้คนมาลงเริ่มต้นชั่วโมงด้วยคำพูดง่ายๆ อย่างนั้น ก็รู้สึกประหลาดใจ กึ่งสงสัยขึ้นมาทันที
จริงเหรอ...
แค่การฟังธรรมดาๆ จะทำให้คนเรารู้สึกดีขึ้นมาจริงๆ เหรอ
ซิสเตอร์บรรยายต่อว่า 'การฟัง เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครจะทำก็ได้ แต่เป็นเรื่องยาก...ที่จะหาคนที่ตั้งใจฟังเราอย่างจริงๆ จัง '
ตอนนั้นเรายังไม่เข้าใจ เพราะชีวิตยังเต็มไปด้วยสีขาว เป็นคนมองโลกในแง่ดีเต็มพิกัด...ปัญหาอะไรก็มีคนช่วยแก้ไข แต่ตอนนี้ หลังจากผ่านอะไรมามากขึ้น ก็เริ่มเข้าใจคำพูดของซิสเตอร์ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และไม่นึกเสียใจเลย ที่ตอนนั้นเลือกลงกิจกรรมกับซิสเตอร์ แทนที่จะไปเลือกอะไรที่ดูหวือหวาอย่างการละคร เล่นดนตรี หรืออะไรที่ดูเข้ากับวัยและยุคสมัยมากกว่า
มันเป็นอาหารทางจิตอย่างแท้จริง
คนที่มีพรสวรรค์ในการฟังนั้นหาได้ยาก เพราะในสังคมปัจจุบันนี้...มีแต่คนอยากพูดเสียทั้งสิ้น เพราะทุกๆ คนก็ล้วนมีเรื่องหนักอกหนักใจมามากบ้าง น้อยบ้าง แตกต่างกันไป และแต่ละคนก็มีความต้องการสิ่งที่จะมาบำบัดและแบ่งเบาทุกข์นั้นในรูปแบบต่างๆ แต่ส่วนมาก มนุษย์ต้องการใครสักคนเพื่อรับฟังและแบ่งเบาความทุกข์นั้น
'ไม่ใช่เรื่องยากจนทำไม่ได้ แต่ต้องการพรสวรรค์พอสมควร ที่ซิสเตอร์เรียกว่าพรสวรรค์ ก็เพราะผู้ฟังที่ดีต้องรู้จังหวะจะโคน รู้ว่าตรงไหนควรพูดอะไร รู้ว่าตอนไหนไม่ควรพูดอะไร ตรงไหนควรเงียบ ตรงไหนควรให้กำลังใจ'
ถูกของซิสเตอร์
บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าควรจะหยุดตรงไหน ให้กำลังใจตอนไหน มีท่าทางยังไง
'เป็นตัวของตัวเอง แต่เก็บคำพูดที่จะทำร้ายจิตใจผู้พูดไว้ก่อน หากเขายังไม่พร้อมที่จะรับคำพูดนั้นๆ ถ้าเขามีปัญหา...ก็นิ่ง ฟัง ปล่อยให้เขาระบายออกมาให้หมด แต่อย่าทำให้เขารู้สึกว่าโดดเดี่ยว ด้วยการพูดคนเดียว อย่าเพิ่งแทรกด้วยเรื่องของตัวเองจนเรื่องของตัวเองดูเด่นกว่าเรื่องของเขา แต่แบ่งปันประสบการณ์ของเราให้เขารับฟังได้บ้าง เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น' ซิสเตอร์ย้ำคำว่า 'บ้าง'
'และอย่าลืม...สุดท้ายแล้วควรกลับมาสนใจเรื่องราวของเขา ในเวลานั้น...เขาต้องการที่พึ่งพิงทางใจจริงๆ'
ก็ถูกของซิสเตอร์อีกนั่นแหละค่ะ
มนุษย์เรา...อย่างไรเสียก็ยังเป็นสัตว์โลกที่ต้องการความสนใจจากสิ่งรอบข้าง
เมื่อไรก็ตามที่รู้สึกว่าถูก ทอดทิ้ง ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ก็อาจจะเกิดฏิกิริยาในแบบต่างๆ กัน ลองคิดดูว่าถ้าสภาพทางจิตใจก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ แต่พอมาพูดกับใครคนหนึ่งก็พบว่าคนนั้นเปลี่ยนเรื่องพูดไปเสียทันที ทำเหมือนเรื่องราวของเราไม่สำคัญ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
A: 'กูตกงานว่ะ ทะเลาะกับบอส แม่ง โคตรกลุ้ม'
B: 'เฮ้ย...กลุ้มไปก็ปวดหัว กินเหล้าดีกว่า'
C: เบื่อจัง เค้าไม่สนใจเราเลย
D: หาหนุ่มใหม่ดิ เออ เราจะเลือกของขวัญให้พี่ ก. น่ะ C ช่วยคิดหน่อยสิ ว่าจะเอาอะไรดี'
ทั้ง B และ D ล้วนไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย A กับ C
แต่สิ่งที่พูดออกไป อาจจะทำให้สองคนนั้นรู้สึกแย่ลง
อาจจะยิ่งหดหู่ลงกว่าเดิม
อาจจะหงุดหงิด กลายเป็นความโกรธ
อาจจะถอยหนีผู้ฟังคนนั้นไปเลย
คาดเดาไม่ได้...แต่ผู้ฟังคนไหนก็คงไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นหรอก
จากวันที่นั่งสนทนากันในวันนั้น มาจนถึงวันนี้...เกือบสิบปีแล้ว
ชมรมของซิสเตอร์มีประโยชน์มากมาย
ไม่ใช่แค่เรื่องนี้...
แต่อะไรอีกหลายๆ อย่างที่ซิสเตอร์หยิบยกมาสนทนา
สิทธิสตรี การทอดผ้าป่าข้าวที่หมู่บ้านกะเหรี่ยง การทำแท้ง ฯลฯ วันนี้มันเป็นเหมือนเกราะทางใจ เหมือนอาหารทางจิตวิญญาณ
ขอบคุณค่ะ ^ ^
ที่ผ่านมาอาจจะทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง
อะไรที่ว่าไม่ดีก็อาจจะทำลงไปบ้าง ด้วยความไม่รู้ตัว
แต่ต่อไปนี้จะพยายามเป็นผู้ฟังที่ดีให้กับคนรอบข้างนะคะ ทั้งที่ตัวเองอาจจะไม่มีพรสวรรค์นั้นเลยก็ได้
ไม่ได้เพราะอยากเป็นในสิ่งที่สังคมขาด
ไม่ได้เพราะอยากทำตัวเป็นวีรสตรี
แต่เพราะรู้...ว่าการมีคนคอยรับฟังเราทุกเรื่อง มันทำให้รู้สึกดีมากมายจริงๆ
4 ความคิดเห็น:
เดี๋ยวนี้มีแต่คนอยากพูด แต่ไม่ค่อยมีคนอยากฟังจริงๆเลย...
ขอบคุณที่เป็นผู้ฟังที่ดีมากๆครับ :D พี่คูณทำได้ไม่เก่งเลย :~(
พี่ชัช: คงอย่างงั้นมั้งคะ ซิสเตอร์เลยบอกว่า มันเป็นพรสวรรค์
พี่คูณ: ยิ้มอาจจะไม่ใช่ผู้ฟังที่ดีนักก็ได้ค่ะ ^ ^' และพี่คูณก็อาจเป็นผู้ฟังที่ดีได้เหมือนกัน
ขอบคุณค่ะน้องยิ้มสำหรับเรื่องดี ๆ ที่หยิบยกมาฝากกันทุกครั้ง อีกไม่กี่วันก็จะกลับยอร์คแล้วสิ พี่ ๆ รอกันอยู่นะจ๊ะ
แสดงความคิดเห็น