
Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
วันนี้แหวกกองงานออกมาเขียนอะไรยาวๆ อีก ขณะที่พิมพ์อยู่นี้ก็มีหนังสือกางอยู่ตรงหน้าระหว่างโน้ตบุคกับตัวข้าพเจ้าเอง บนหนังสือมีตุ๊กตาหมาสีเหลืองหน้าตาประหลาดตัวนุ่มวางทับอยู่ ตอนนี้กำลังต้องการความอบอุ่นจากอะไรตัวนุ่มๆ อย่างแรง เข้าใจเลย ว่าทำไมเด็กผู้หญิงหลายๆ คนชอบกอดตุ๊กตาหมี บางทีทำอะไรมาเหนื่อยๆ เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ การได้ซบลงบนอะไรที่นุ่มๆ ก็ให้ความรู้สึกดี กลบเกลื่อนความไม่มั่นใจ หาที่พักพิง (ทฤษฎีอะไรเนี่ย มั่วสุดๆ แต่อย่างน้อยมันก็ใช้ได้สำหรับยิ้มแหละว้า...)
แต่ตุ๊กตามันไม่มีชีวิต...อยากได้น้องหมาจริงๆ มากอดง่าาาาา
เมื่อคืนฝันว่าได้ลูกหมามาเลี้ยง 2 ตัวค่ะ เลี้ยงในหอพักนี่เลย...ท้าทายอำนาจเบื้องสูงมาก แต่ก็เป็นฝันที่ทำให้รู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะตั้งแต่เกิดมา ยิ้มไม่เคยมีหมาเป็นของตัวเองเลยซักตัว ฮือๆ เนื่องเพราะบ้านที่อยู่มีพื้นที่จำกัดมาก แล้วแต่ละคนก็มีงานการยุ่งเหยิง ไม่มีใครสามารถรับภาระดูแลน้องหมาได้เต็มที่ (จริงๆ แล้วดูเหมือนว่าแม่จ๋าจะไม่ชอบหมาอ่ะค่ะ เลยไม่อยากมีหมาในบ้านมั้ง เดี๋ยวไว้รอแต่งงานก่อน ตอนนั้นจะเลี้ยงหมาชดเชยหลายๆ ตัวเลย - ถ้าวันนั้นจะมาถึงนะ เหอ ๆ ๆ )
เมื่อไม่มีหมาส่วนตัว ยิ้มก็จะชอบทึกทักเอาหมาคนอื่นมาเป็นหมาตัวเอง แล้วก็เพราะว่าไปบ้านยายบ่อยๆ นี่แหละ ก็เลยเหมาเอาว่าหมายายเป็นหมาตัวเอง ก็ได้ผลนา เพราะว่าเมื่อก่อนก็ซื้อปลายข้าวมั่ง ซื้อกระดูกมั่ง ไปให้มันบ่อยๆ บางทีก็เอาขนมไปให้จนมันรั้กกก รัก รัก รัก ยิ้ม ปิดเทอมทีก็ไปเล่นๆ ๆ ๆ ขลุกกับมันจนไม่มีทางลืมกันได้เด็ดขาด เรียกได้ว่ารถแล่นเข้าไปในบ้านสวนทีไร น้องหมาก็มารออยู่แล้ว หูลู่ กระดิกหางดิ๊กๆ ด้วยความคิดถึง เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ และไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นมานานมาก ๆ ๆ แล้ว
(เขียนไปน้ำตาเริ่มซึมๆ ออกมาแล้วนะเนี่ย คิดถึงน้องหมา)
วันนี้ขอเขียนถึงน้องหมาบางตัว ไม่ใช่เพราะว่าไม่รักตัวที่ไม่เขียนถึงนะ แต่ว่า... 20 กว่าตัวเนี่ย มันก็เยอะอยู่ เขียนถึงทุกตัวก็โน่น...5-6 ชั่วโมงจะจบหรือเปล่าก็ไม่รู้
1. ตาลเล็ก
ตอนนั้นยายเลี้ยงหมา 2 ตัวคู่กันไป เรามีเจ้าตาลใหญ่อยู่มาก่อน แล้วตามมาด้วยตาลเล็ก ตาลเล็กเป็นหมาของพี่สาวคนหนึ่งที่อยู่บ้านข้างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ตอนนั้นพ่อกับแม่เขาเริ่มขี้เกียจเลี้ยงหมาแล้ว อยากยกให้คนอื่นแต่ก็ไม่รู้จะเอาไปให้ใคร พ่อจ๋าก็เลยขอเอาไปไว้บ้านสวน อย่างน้อยก็ช่วยเฝ้าบ้านได้ เจ้าตาลเล็กเป็นเหมือนดวงตา ดวงใจของพี่สาวคนนั้น พวกเรารับเอาไป พวกเราก็รักมันเหมือนกัน ตาลใหญ่เป็นหมาตัวใหญ่ ตาลเล็กเป็นหมาผสมกับพันธุ์เตี้ย ตัวเล็กก่าตาลใหญ่ เลยเรียกเอาความเอ็นดูจากคนอื่นได้มากกว่า
แต่บ้านสวนในสมัยนั้น..ก็เต็มไปด้วยภัยอันตราย
รั้วไม้ที่ล้อมรอบบ้านไม่มิดชิดพอที่จะกั้นเจ้าสี่ขาขนปุยไม่ให้ออกไปเริงร่าที่โลกภายนอกได้ แล้วบ้านเราก็อยู่ติดกับทุ่งนาเลย หลายๆ ครั้งที่ยายกับตาต้องล่ามโซ่น้องหมาเอาไว้ในฤดูปลูกพริก เพราะว่าช่วงนั้นเขาวางยาเบื่อไว้ตามไร่นา เพื่อป้องกันไม่ใหหนูนาและสัตว์อื่นๆ มาทำร้ายพืชผลเขาเสียหาย แล้วเจ้าหมาๆ ก็ตกเป็นเหยื่อไปหลายๆ ตัวเสียด้วยสิ
เราก็เลีี้ยงข้าวให้มันอิ่มแล้ว แต่สัญชาตญาณหมาบ้านสวน มันก็ยังคงชอบล่า หาอาหารกินเองอยู่ดีล่ะมั้ง...ทั้งๆ ที่ล่ามโซ่แล้ว แต่วันไหนที่เผลอ น้องหมาก็แอบออกไปจนได้ อย่างน้อยขอให้ได้ออกไปเล่นน้ำที่เขาสูบใส่ไร่ ใส่นามันก็มีความสุขแล้ว ตาลเล็กก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย หมารักอิสระ ชอบหนีเที่ยว
ที่ร้ายที่สุดก็คือ วันหนึ่งตาลเล็กก็ไม่รอด...ตกเป็นเหยื่อยานั้นด้วยอีกตัว พวกเราไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นจนได้
ตอนนั้นพวกเราเศร้ามากๆ เศร้ามากจนไม่รู้ว่าจะบอกพี่สาวคนนั้นได้อย่างไร แต่เมื่อเขาถาม เราก็ต้องบอกไปตามความจริง ยิ้มรู้สึกเสียใจมาก ๆ ๆ บางที...ถ้าตาลเล็กอยู่กับเขา อาจจะอายุยืนมากกว่า 2 ปีก็ได้ล่ะมั้ง
2. เด่น - เด๋อ
ขอเขียนถึง 2 ตัวพร้อมๆ กันเลยก็แล้วกัน เพราะ 2 ตัวนี้มาเป็นคู่ ยายไปขอเขามาเลี้ยง เด่นเป็นหมาตัวสูง เด๋อเป็นหมาตัวเตี้ย ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากครอกเดียวกัน ยิ้มกลัวเด่นมากกว่า เลยไปสนิทกับเจ้าเด่อ ทั้งที่เด่นมันก็รักเจ้าของเหมือนๆ กับเด๋อนั่นแหละ เด่นเลยเป็นหมาขี้ใจน้อย (ตอนนี้ยังเสียใจอยู่เลย ที่แสดงออกไม่เท่ากัน ก็เด่นมันสูงถึงขาอ่อนเลยอ้ะ กลัวมันกระโจนใส่เอาอ่ะดิ เด๋อสูงแค่ครึ่งน่องเอง)
ตอนนั้นยิ้มสนิทกับเด๋อมากๆ เด๋อมันก็คงจะรักยิ้มมากๆ ๆ ด้วยเหมือนกัน เพราะทุกครั้งที่ไปบ้านยาย เด๋อมันจะมารออยู่แล้ว แล้วก็จะมานอนๆ อยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างตลอดเวลาที่ยิ้มอยู่ที่บ้านนั้น เดินเข้าไปในสวนมันก็เดินตามไปเป็นเพื่อน ไปไหนๆ มันก็ตาม มีอะไร...บ่นอะไรให้ฟังมันก็กระดิกหางทำท่าเหมือนจะรับรู้ กอดก็นุ่มแขน อ้วนกลมเต็มไม้เต็มมือดี พอยิ้มจะกลับ มันก็ทำหางลู่ หูตก จ๋องๆ มายืนส่งข้างๆ ยายก่อนที่รถจะออกไป...
ทุกๆ ครั้งที่จะกลับเชียงใหม่ ยิ้มเหลียวหลังมองเด๋อจนลับตา
เด่นกับเด๋อเคยเจอยาเบื่อเหมือนกัน แต่ยายเอาไข่ขาวกับนมกรอกปากมันทันเวลา เลยช่วยชีวิตมันเอาไว้ได้ หลังจากนั้นหมาๆ ทั้งสองก็เข็ด ไม่ไปกินอาหารเรี่ยราดอีก อยู่กับพวกเรามาได้อีกนาน 2-3 ปี
แต่แล้ว...ภัยที่อันตรายมากกว่ายาเบื่อก็มาถึง สมัยนั้น เป็นช่วงที่การกินเนื้อหมาแกล้มเหล้ากำลังมาแรง จากข่าวลือ...คนก็เริ่มแอบจับหมาที่เดินท่อมๆ อยู่ไปปิ้งกินแกล้มเหล้าจริงๆ หมาหน้าตาดีเริ่มหายไปทีละตัว สองตัว ชาวบ้านเจ้าของหมาที่หายไปเริ่มสาปส่ง ด่าแช่งคนที่เป็นเหตุนั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใคร เจ้าของหมางามๆ ก็เริ่มเก็บหมาของตัวเองไว้ให้ดี เด๋อก็เหมือนกัน หมาอ้วนๆ ขนมันเลื่อมดูสุขภาพดีอย่างนั้น...เตะตาคนพวกนั้นได้ง่ายๆ
ช่วงนั้น...เราก็จำต้องล่ามน้องหมาทั้งสองไว้เหมือนกัน แต่จะล่ามเอาไว้ตลอดก็ไม่ได้ หมามันก็มีหัวใจ
เมื่อวันเสาร์หนึ่งพวกเราแวะตลาด ยิ้มกับป้าจ๋าก็ไปซื้อปลายข้าวตามปกติ แต่พอรถแล่นเข้าไปถึงบ้านยาย ยิ้มก็ลงจากรถด้วยความรู้สึกแปลกๆ บ้านมันเงียบไปไม่เหมือนเดิม เด๋อที่เคยมารออยู่เป็นนิจ กลับไม่มีร่องรอยของมัน ยายเดินหน้าเศร้าๆ เข้ามาบอกว่า
"เด๋อหายไปแล้ว ลูกเอ๋ย ยายตามหาทั่วหมู่บ้านก็ไม่พบ"
วินาทีนั้นยิ้มรู้สึกเหมือนโลกถล่มทลาย ถ้าเด็กอายุไม่ถึงสิบขวบเคยอกหัก ความเจ็บปวดคอนนันก็คงจะแรงพอๆ กับอกหักล่ะมั้ง ความรู้สึกที่เหมือนโลกทั้งโลกมันว่างเปล่า...ครึ่งหนึ่งของชีวิตหายไป ไร้ร่องรอย
ยิ้มร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหลอีก...
ตอนที่เขียนนี่ก็ร้องอยู่...ก็เสียงเศร้าๆ ของยายที่บอกเรื่องเด๋อนั้น มันก้องๆ ๆ ๆ ๆ อยู่ในหัวทุกครั้งที่นึกถึง
ไม่มีใครเห็นเด๋ออีกเลย แม้ว่ายายจะจ้างคนออกตามหาหลายๆ รอบก็ตาม ไม่มีแม้แต่ซากศพตามทุ่งนา ถ้าเด๋อจะถูกยาเบื่อเหมือนหมาตัวอื่นๆ ก็น่าจะมีร่องรอยอะไรบ้าง
ก็ได้แต่หวังว่า ถ้าเด๋อจะถูกมนุษย์พวกนั้นทำร้ายจริงๆ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก็คงจะเกิดขึ้นแวบเดียวแล้วหมดไป ไม่ต้องมารับรู้อะไรอีก...
ขาดเด๋อไปแล้ว เด่นก็เหงาลงมาก...ยิ้มไม่กล้าเล่นหัวกับเด่นหมาใหญ่ แต่ยิ้มก็ลูบหัวมันเบาๆ ทุกครั้งที่มา เด่นมันคงเหงา ที่เพื่อนที่โตมาด้วยกันหายไปไม่มีร่องรอย แต่เด่นก็อยู่ต่อมาเรื่อยๆ เพราะยายเอาหมามาเลี้ยงอีก 2 ตัว เด่นกลายเป็นหมารุ่นพี่ไปแล้ว
วันหนึ่ง หลังจากที่เด่นไม่เคยออกไปไหนมานานนับปีๆ มันก็ออกไปเดินเล่นนอกบ้าน พร้อมทั้งกลับมาด้วยน้ำลายฟูมปาก พวกเราเอาไข่ขาวกรอกปากมันเพื่อช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว เด่นขาดใจตายไปต่อหน้าพยานหลายคน
เด่นเคยรอดตายจากยาเบื่อมาแล้วหนหนึ่ง แต่ไม่ใช่หนนี้....
เด่นสำลักเฮือกดิ้นรนอย่างทรมาน ยิ้มตกใจ ไม่มีน้ำตาไหล แต่ความเศร้าเกาะกินใจจนพูดไม่ออก ไม่กล้าแม้แต่จะไปยืนดูศพของเพื่อนตัวหนึ่ง
เด่นคงจะได้ไปอยู่กัยเด๋อแล้ว
แต่ยิ้มเศร้าจนไม่รู้จะทำยังไง
เด่นถูกฝังอยู่ใต้ต้นไม้ในสวน ต้นไหนก็จำไม่ได้แล้วสิ แต่ต้นไม้มันคงจะงอกงามเหมือนๆ กับความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับหมาสองตัวนั้น...
ยิ้มคงลืมไม่ลงเลยจริงๆ
3. หนูหน่องกับเจ้ามอม..
หนูหน่องกับเจ้ามอมเป็นลุกหมา 2 ตัวที่มาอยู่เป็นเพื่อนเด่น หลังจากเด๋อหายไป สองตัวนี้เป็นหมาขนาดไม่ใหญ่ หน้าตาน่ารักไปคนละแบบ หนูหน่องจะออกร่าเริง มอมจะเป็นหมานัยน์ตาโศก แต่ก็สงบเสงี่ยม น่ารัก เรียกเอาความเอ็นดูได้ไปอีกแบบ
ถ้าใครเคยอ่านเรื่อง 'ปลูกหัวใจ ในสวนขวัญ' ก็ต้องขอยอมรับว่า หนูหน่องกับเจ้ามอมเป็นต้นแบบ 'เจ้ามอม' ในเรื่องนั้น เพราะสองตัวนี้เริ่มมาอยู่กับพวกเราในฤดูหนาว ดังนั้น...กองไฟ ข้าวจี่ ข้าวแคบ ข้าวโพดปิ้ง และน้องหมานุ่มๆ ที่นอนพิงเท้าอยู่ ก็คือเจ้าสองตัวนี้เอง
ยิ้มยังไม่ลืมเด๋อน้อยๆ เลย...แต่ก็รักเจ้า 2 ตัวนี้ไม่แพ้กัน...
ตอนนั้น..ยายกับตาคงยังไม่ลืมเรื่องเก่าๆ เลยล่ามเจ้าสองตัวนั้นไว้เกือบตลอดเวลา เพราะจะให้รื้อรั้วไม้ ทำรั้วคอนกรีตรอบบ้านมันก็เรื่องใหญ่เอาการ รั้วไม้นี่หมาบ้าพลังก็พังออกไปอยู่ได้เรื่อยๆ เสียด้วย หนูหน่องเป็นหมาตัวเมียตัวแรกที่เลี้ยง เพราะปกติแล้ว ยายอยากได้ตัวผู้มากกว่า ไม่ต้องมีลูกหมาใหม่ๆ มาเพิ่มภาระ แต่พอมีหนูหน่อง เราก็เริ่มมีสมาชิกใหม่ๆ มาอยู่ด้วย มีเรื่องราวประทับใจ สะเทือนใจอีกมากมาย แต่เริ่มเขียนไม่ไหวละ
หนูหน่องกับเจ้ามอม อยู่กับพวกเราหลายปีเหมือนกัน นานกว่าตัวที่ผ่านๆ มา แต่ในที่สุดก็ค่อยๆ จากเราไป แต่การที่เขาากเราไปเพราะไม่สบาย ยังดีกว่าการจากไปด้วยเหตุอันไม่ควรเยอะแยะมากมาย
ตอนแรกตั้งใจจะเขียนเรื่องน้องหมาร่าเริงนี่นา ทำไมกลายมาเป็นเรื่องหมาเศร้าๆ ได้ก็ไม่รู้
อ่านไปน้ำตาไหลไป ฮืออออ กลับไปทำงานดีกว่า
17 ความคิดเห็น:
เศร้าจริงๆ แต่เค้าก็อยู่ในความทรงจำของเราไปตลอด
และเรื่องดีๆ อันน่าประทับใจของเค้า ก็ได้ถูกเล่าเรื่อง
และเขียนออกมาได้เป็นการรำลึกถึงและให้คุณกับเค้า ..
ตอนแรกว่าจะเขียนถึงหลายๆ ตัวค่ะ
เขียนไปก็แบบ หงืดดด
ไม่ไหวแล้ว สงสารน้องหมา คิดถึงน้องหมา อยากเลี้ยงหมา อ๊ากก
เศร้ามั่กๆ
เคยเลี้ยงแมวอยู่ตัวนึงตัวอ้วนตุ๊บ เลี้ยงมาได้ตั้งนานจนออกลูกออกหลานมาเยอะแยะ วันนึงกลับมาเห็นมันโดนขี้กลึง(แต่ก่อนบ้านเป็นโรงกลึง)พันคอเกือบขาด รีบพาไปโรงบาล...ดีที่ช่วยทัน แต่อีกไม่กี่เดือนต่อมามันก็ตายเพราะดันไปกินน้ำยาหล่อเย็นเข้า(ทำไมมันชอบเครื่องกลึงนักก็ไม่รู้อ่ะนะ)...ตายซะงั้น
หมาก็เคยเลี้ยง ตัวนี้เลี้ยงไว้ที่บริษัทพ่อ น่ารักมั่กๆๆๆๆๆๆๆ พอพี่ขึ้นรถจะกลับบ้านปั๊บมันจะวิ่งนำหน้าไปยืนดูรถตรงทางแยกให้เลย(เหมือนยามจริงๆนะเนี่ยนะ) แล้ววันนึงมันก็หายไป สันนิษฐานว่าคนงานในบริษัทจับทำลาบน้ำตกไปซะแล้ว คิดถึงๆ
อีกตัวอยู่ที่บ้านยายเหมือนกัน ตอนเราไปมันก็ดีใจสุดๆพอพี่กลับมันก็จะวิ่งตามรถมาเรื่อยๆจนมันตามไม่ทันนั่นแหละมันถึงจะหยุดแล้วก็เดินกลับบ้านไป(แต่ก็วิ่งตามได้ไกลมากๆอ่ะนะ) แล้วมันก็หายไปเหมือนกันอ่ะนะ...ไปไหนแล้วก็ไม่รุ...เศร้าๆ
รออ่านอยู่นะครับ .. ตั้งใจว่าจะเขียนถึงหมาที่เคยเลี้ยงเหมือนกัน
เอาเป็นแบบเรืองราว แบบนี้ ..
เคยเขียนเรื่องหมาที่รักไว้นะครับ แต่มันสะเทือนใจ ไม่ได้เอามาลง เกิดที่บ้านตอนผมอายุ 2-3 ขวบ สนิทเหมือนน้องชายเลย มันชื่อ โจ แต่มันดุมาก เป็นลูกหมาป่า (น้าเอาแม่มันมาจากขาวเขา) ขนสีแดงเพลิง คนแถวๆบ้านเรียก" หมาไฟ" หมาครอกนั้นก็ถูกยาเบื่อตายเกือบหมด ยกเว้นเจ้าโจนี่แหละครับ รอดตายการเบื่อมาได้ 2 ครั้ง แล้วมันก็ไม่กินของคนแปลกหน้าอีกเลย
โจ ตาย ตอนอายุผม 14 ฟันหักหมดแล้ว นอนในท่าเฝ้าบ้านจนถึงวาระสุดท้าย T-T จากนั้นมา บ้านผมก็ไม่เลี้ยงหมาตัวใหม่อีกเลย มีแต่ฝูงแมว และปลาคาร์ฟ
พี่เบิร์ด: เศร้าจังเนอะ พวกกินหมาเนี่ย T-T ฮืออ ฮือออ ฮือออ
คุณวี: เขียนเลยค่ะ ๆ มาเศร้ารวมๆ กัน ฮือออ
พั้คูณ: นั่นสิเนอะ อะไรที่เป็นที่รักนี่ สะเทือนใจจริงๆ แต่โจของพี่คูณอยู่มานานมากเลยนะเนี่ย
พึ่งกลับบ้านมา นั่งมองดีดี้อายุสิบขวบ
มันแก่ลงมากเลย ถ้าเป็นคน ดีดี้ก็คงรุ่นปู่แล้ว
มองมันแล้วก็รู้สึกกลัว กลัวว่ามันจะจากไป Y-Y
ไม่เศร้าพวกกินหมาเลยคับ(สารรูปว่าพี่ก็เคยกินอ่ะนะ)แต่เศร้าที่มันมากินหมาของพี่เนี่ยแหละ....อะไรของพวกเมิงค้าบเนี่ยยยยยยยยยยยยย
พี่เวีย: งึมๆ ยังพอมีเวลานะฮับ ช่วงนี้เค้าอาจจะต้องการความรัก แต่แสดงออกไม่ได้แล้ว งือๆ น้องหมาแก่
พี่เบิร์ด: อ๋า....พี่นกเล็กกินหมา T-T
เพื่อนเอามาจากแพร่อ่ะคับ มันบอกว่าเป็นเนื้อแดดเดียวเลยซัดซะ...แล้วมันก็มาบอกทีหลังว่าเป็นเนื้อหมา อร่อยไปซะเต็มคราบละ -_-"
แต่ก็อร่อยดีนะลองดูดิ่ หุหุหุ
งือ ไม่เอา...
จากทฤษฎีมานุษยวิทยา
เค้าบอกว่าคนเราจะไม่กินอะไรที่ใกล้กับตัวเอง
น้องหมาหรือม้า นี่ใกล้กับตัวเอง เพราะมีการตั้งชื่อ มีการดูแล เอาใจใส่ แต่น้องหมาจะใกล้ชิดกับคนที่สุด เพราะม้าเป็นสัตว์ outdoor ส่วนหมานี่ใกล้เคียงกะ indoor
ดังนั้น ถ้าให้เลือกคนจะกิน ม้า > หมา หุหุ
โฮะ!!!น้องยิ้มเลือกกินของใหญ่กว่าซะละ ยังไม่เคยกินม้าเลยอ่ะ รสชาติจะเป็นไงก็ไม่รุ...น่าลองนะเนี่ยนะ หุหุหุ
ง้า...
เปล่านะ แค่่บอกว่ามันเป็นแนวโน้มที่คนจะกินเฉยๆ อิอิ
ตอนนี้กินเนื้อ ไม่กี่อย่างเอง ปลา ไก่ หมู แกะนี่นานๆ ที
ส่วนอาหารทะเล ไม่มีปัญญาซื้ออยู่แล้ว ฮ่าๆ (มันแพง -_-")
มาร่วมเศร้าด้วยคนครับ
เคยเลี้ยงหมาเหมือนกัน อยู่กันมานานมาก ๆ
น่าจะเกิน 15 ปี เป็นที่รักของทุกคนในบ้านครับ
แล้ววันนึงเค้าก็โดนรถทับ ทุกคนในบ้านเศร้ามาก ๆ
เคร้าจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองตากัน น้ำตาคลอเบ้า
เงียบไปหลายคืนครับ
แต่ตอนนี้ก็เลียงเพิ่มอีกหลายตัวครับ
....ถ้าคิดจะรัก...ก็ไม่ต้องกลัวที่จะพลัดพรากครับ....
อืม นั่นสิคะ...
อยากเลี้ยงมากๆ เลย ตอนนี้
แต่ว่าต้องร่อนเร่ไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้
คุณน้องเป็นผีตองเหลืองเหรอคับ
คุณน้องมีบ้านตากอากาศหลายหลังน่ะค่ะ
ไม่รู้จะไปพักที่มัลดีฟส์ อิบิซ่า โมนาโค หรือว่า นิซ ดี
-_-" ไม่ใช่ละ
จริงๆ ต้องอยู่หอ เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ต่างหาก
แสดงความคิดเห็น