วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2549

ไฟฝัน




ไฟฝัน...

ไม่นานพลันคงถึงวันหมดสิ้นเชื้อ

เปลวเพลิงแห่งความสุข...มีทุกข์เจือ

สักวันคงไม่เหลือ...แม้ร่องรอย



ทุกคราที่ฟ้าร้องไห้

เปลวไฟ...ไอฝันพลันถดถอย

หยาดฝนแทนน้ำตาแห่งการรอคอย

ทีละน้อย..ค่อยซึมซาบอาบดวงใจ



ชะล้างความรู้สึกให้เลือนหาย

ดีหรือร้ายไม่พรั่นไม่หวั่นไหว

รู้เพียงแต่สองขาต้องก้าวไป

ไกลแสนไกล...ใกล้แสนใกล้...ไม่รับรู้



เปรียบประดุจตุ๊กตามีชีวิต

ที่ไร้จิต...เหลือเพียงร่างวางตั้งอยู่

แม้จะคิดฝืนทุกข์ลุกขึ้นสู้

ให้อดีตเป็นครู...คอยสอนใจ



แต่เปลวไฟที่มีนั้นมันสิ้นเชื้อ

จะไม่เหลือ...แม้ภาพเก่าเงาสดใส

จึงก้าวย่างบนทางฝันยาวไกล

อย่างสิ้นไฟ ไร้พลัง...เช่นวันวาน



..............................................................



หมดไฟแล้ว....  T_T

6 ความคิดเห็น:

homer simpson กล่าวว่า...

"ประสบการณ์ดีๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับสั่งให้กำลังใจในการทำงาน
องคมนตรีสุเมท ท่านได้เล่าให้ฟังว่า “ตอนนั้นผมกำลังทำงานอยู่ในสภาพจิตใจที่แย่มาก มันไม่มีกำลังใจจะทำอะไร ท้อแท้กับงานมาก ไม่มีใครเข้าใจ เหมือนทำดีแต่ไม่ได้ดี”
ในหลวงท่านทรงเสด็จมาพอดี และท่านได้เห็นสีหน้าผมไม่สู้จะดี ท่านได้สอบถามจนได้ความว่าผมกำลังท้อแท้กับงาน ท่านจึงตั้งคำถามและรับสั่งว่า “ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม เศษเหล็กเหล่านั้น เวลาขาย คุณค่ามันต่ำมาก คงได้เงินมาไม่กี่บาท แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กเหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่ง เวลาหลอมนี่ เหล็กมันคงรู้สึกร้อนมาก พอหลอมเสร็จเรานำมาทำเป็นดาบ คงต้องนำมาตีให้แบนอีก เวลาตีก็ต้องคอยเอาไปเผาด้วย ต้องตีไป เผาไป อยู่หลายรอบกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เราต้องการ ต้องผ่านความเจ็บปวด ความร้อนอยู่นาน แถมเมื่อเสร็จแล้วถ้าจะให้สวยงามดังใจก็ต้องนำไปแกะสลักลวดลาย เวลาที่แกะลวดลายก็คงต้องใช้ของแข็งมีคมมาตีให้เป็นลวดลาย แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงามก็จะมีคุณค่าที่สูงมาก เทียบกับเศษเหล็กคงจะต่างกันลิบลับ จะเห็นได้ว่ากว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนักจะกลายเป็นดาบอันงดงามนั้น ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย ทั้งความเจ็บปวดต่างๆ กว่าจะประสบความสำเร็จ ดังนั้น ขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า ใครไม่เคยถูกตี ถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น จงอย่าได้หาญคิดทำการใหญ่”

ของขวัญจากในหลวง
1. อย่าทำลายความหวังของใคร ... เพราะอาจเหลืออยู่แค่นั้น...
2. รู้จักฟังให้ดี...โอกาสทองบางทีมันก็มาถึงแบบแว่วๆ เท่านั้น...
3. จะคิดการใด...จงคิดการให้ใหญ่เข้าไว้ แต่เติมความสนุกสนานลงไปด้วยเล็กน้อย...
4. หัดทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัยโดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้...
5. จำไว้ว่าข่าวทุกชนิดถูกบิดเบือนมาแล้วทั้งนั้น...
6. ใครจะวิจารณ์อย่างไรก็ช่าง...ไม่ต้องเสียเวลาโต้ตอบ...
7. ให้โอกาสผู้อื่นเป็นครั้งที่ “2” แต่อย่าให้ถึง “3” ...
8. เราไม่ได้ต่อสู้กับ คนโหดร้าย แต่เราต่อสู้กับความโหดร้ายในตัวคน ...
9. เมื่อมีใครสวมกอดคุณ ... ให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยก่อน
10. อย่างไปหวังเลยว่าชีวิตนี้จะมีความยุติธรรม ...
11. ประเมินตัวเองด้วยมาตรฐานของตัวเองไม่ใช่มาตรฐานของคนอื่น...
12. คงไว้ซึ่งความเป็น คนเปิดเผย อ่อนโยน และอยากรู้อยากเห็น ...
13.ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายเพียงใด สุขุมเยือกเย็นเข้าไว้...
14. อย่าวิจารณ์นายจ้าง...ถ้าทำงานกับเขาแล้วไม่มีความสุขก็ลาออกซะ...
15. คำนึงถึงการมีชีวิต “กว้างขวาง” มากกว่าการมีชีวิต “ยืนยาว” "
นำมาจาก http://www.police.go.th/new/showdetial.php?news_ID=157

Yim S. กล่าวว่า...

ขอบคุณพี่เจมส์มากค่ะ ที่เอาข้อความมาให้ ^ ^
ตอนนี้ไฟหมด เดี๋ยวไฟก็คงจะมาเองแหละ

Nitikarn Pinmuang-ngarm กล่าวว่า...

กำลังอยู่ในสภาวะเดียวกันเลยยิ้ม ปัญหาที่เข้ามาทำให้ไฟมอดลงเรื่อยๆ สู้ด้วยกันยิ้ม สู้ๆๆๆๆ

Gift waidhaya กล่าวว่า...

Forget the past, start the new...

Ae P กล่าวว่า...

ไอน์สไตน์กล่าวไว้ว่า
"Anyone who has never made a mistake has never tried anything new."

เวลาผลแลบมันแย่แย่ ผลไม่ออกเนี่ยะเราพยายามจะคิดแบบนี้อ่ะนะ^^ ใจเย็นเย็นนะ เหนื่อยนักก็พักบ้าง แต่อย่าหยุดเดินตามหาฝัน มีเพลง "ผมไม่อยากแพ้" ของ I-ZAX เราชอบท่อนนึง
"แต่มันเลิกไม่ได้หรอก ล้มไม่ได้หรอก ผมว่าคุณเข้าใจ
ตัดใจทึ้งไม่ได้หรอก ท้อไม่ได้หรอกฝันมันทำด้วยใจ ผมไม่อยากแพ้ ผมไม่ควรจะแพ้"

ฮึดไว้ สู้ๆนะ ^^ เป็นกำลังใจให้

Yim S. กล่าวว่า...

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมานะเนี่ย ^__^

ทั้งพี่ปุณ กิฟท์ แล้วก็พี่เอ เลยค่ะ
จริงๆ ยิ้มก็ไม่ได้รู้สึกแย่มากหรอก
แค่รู้สึกว่าอะไรๆ ที่ต้องคิด ต้องทำมันมีเยอะก็เลยต้องทำไปเรื่อยๆ เหมือนเครื่องจักร
จนความสุข ความทุกข์ ความรู้สึกมันหายไปหมด ด้านๆ ชาๆ ยังไงๆ บอกไม่ถูก

เดี๋ยวไปหาที่เติมเชื้อไฟก่อน ^__^