วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Happiness, where are you ???

Rating:
Category:Other
ให้หนึ่งดาวสำหรับความรู้สึก กำลังใจ และพฤติกรรมการทำงานช่วงนี้
ที่เขียนนี่มาระบายนะเนี่ย..ไม่กล้าบ่นให้ใครฟังแล้ว เดี๋ยวคนอื่นจะเครียดไปด้วย หรือไม่ก็เบื่อที่จะฟัง

ไม่นานมานี้เองยิ้มเพิ่งทำ quiz ใน facebook ไป คำถามหลักคือ...สิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดในชีวิตคืออะไร คำตอบของเพื่อนคนอื่นมีทั้งความรู้ เงินทอง ความมีชื่อเสียง ปะปนกันไป...แต่ของยิ้ม มันช่าง simple มาก
.
.
ความสุข
.
.
ใช่ ยิ้มอยากกลับไปเป็นยิ้มที่มีความสุขที่สุดในโลกอีกจังเลยค่ะ

ตั้งแต่เริ่มเรียน PhD มานี่...ชีวิตยิ้มช่างหาความสุขยากเหลือเกินค่ะ เข้าใจละ ว่า PhD ที่แปลว่า Permanent Head Damage มันเป็นยังไง ความจำ ความคิด ทัศนคติ ถูกทำลายไม่เหลือหลอภายในระยะเวลาปีครึ่ง
.
.
.
แล้วมาเรียนทำไม - -' อื่ม ก็ไม่มีทางเลือกนี่นา อยากเป็นอาจารย์ก็ต้องเรียนให้ถึงที่สุด เลือกเรียนด้นการจัดการมรดกทางวัฒนธรรม ชื่อฟังดูดี๊....ดี แต่พอเรียนจริงๆ ก็ยิ่งประจักษ์แน่ชัด ว่าเราชอบไปทาง field archaeology หรือไม่ก็ Conservation เลือกมาแล้ว...ทำไงดี....ก็เรียนต่อไป

จะจบตอนอายุเท่าไหร่..
28 - 29 โน่น..
อ๊ากกก
.
.
.
เชื่อมั้ยคะ ช่วงเวลาปี - สองปีที่ผ่านมา ยิ้มอยากบวชมากๆ อยากเข้าสู่ใต้ร่มพระธรรม อยากจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น อยากตัดขาดจากโลกมนุษย์อันวุ่นวายสับสน อุทิศชีวิตให้กับการเผยแผ่พระพุทธศานาไปเลย

แต่ติดที่ว่าบวชชี ก็ยังต้องอาศัยปัจจัยในระดับหนึ่ง - -' ถ้าเราไม่มีลูกหลานมาคอยดูแล นั่นแปลว่า...ในสภาพปัจจุบัน ก็ยังบวชไม่ได้ ติดทุนอีกประการหนึ่ง ถ้าเราบวชนั่นแปลว่าท่านพ่อท่านแม่ต้องใช้ทุนให้เรา..นับถึงเวลานี้ก็...ไม่มากไม่น้อย 30 กว่าๆ ล้านเอง (3 เท่าของค่าเล่าเรียน 7 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา)

ก็สรุปว่า...ยังบวชไม่ได้นะคะ

แล้วจะหาความสุขยังไงดี...

1. ดูละคร ซีรี่ส์ เล่นคอม เล่นเกม เข้าเว็บพันทิป อ่านกระทู้นาธาน ลาบไก่ฯ

พวกนี้ก็พอช่วยได้นะ แต่มันช่วยได้ชั่วครั้งชั่วคราว พอเลิกทำก็เครียดอีก หนำซ้ำยังบริโภคเวลาไปมหาศาล แทนที่จะได้ทำงานทำการ

2. นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม

อันนี้เป็นสุขดี ชอบนะ แต่มันก็วกมาที่เก่าอีก นั่งแล้วไม่อยากลืมตาตื่นเลย ไปถือศีลที่วัดก็ไม่อยากกลับมาสู่โลกภายนอก...อยากบวชๆ ๆ ๆ ๆ

อ่อ..ยังบวชไม่ได้ ลืมไป

3. ไปเที่ยว

อันนี้ช่วยได้นิดนึง..นิดเดียว จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ระยะหลังๆ ข้าพเจ้าจะเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยไปไหน หายหน้าหายตาไปบ้าง ออกไปข้างนอกแล้วมันกังวลเรื่องงาน (ทั้งที่อยู่ห้องก็อาจจะเล่นเนต) เหมือนมีอะไรมาขี่คอ ขี่หลัง ให้หนักหน่วงหัวจายยยย

4. กินเหล้า

อ่า...เข้าพรรษาอยู่นี่นา...อืม ไม่ได้ๆ
ตอนแรกว่าจะเลิกไปเลย ตลอดกาล
แต่ถ้ามันเครียดมากๆ ก็คงอยากใช้น้ำจัณฑ์ชำระน้ำตา

ทำยังไงดีคะ..
ถ้ายังคิดไม่ตก ก็คงจะวนเวียนอยู่ในวงจรอุบาทว์อยู่เนี่ยแหละ
ทำงาน เครียด ขี้เกียจ เถลไถล กินข้าว นอน

อยากให้ชีวิตมีคุณค่ามากกว่านี้จังเลย

9 ความคิดเห็น:

panuwat charoenphol กล่าวว่า...

ชอบอันนี้คับ ฮ่าๆๆๆๆ
....
อย่าไปเครียดกะมันมากคับ...อยากจะบอกอย่างงี้อ่ะ แต่พูดง่ายทำยากเนอะ
มันอยู่ที่สิ่งแวดล้อมด้วยมั๊ง ดูอย่างไอ่บอลเพื่อนพี่เด่ะ...ไอ่นี่น่าจะเป็นด็อกเตอร์ที่ไร้ความเครียดที่สุดในโลกแล้วมั๊งเนี่ย
บางทีถ้าเราติดกับกรอบชีวิตมากเกินไป อยากทำให้ได้ดีทุกอย่าง มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ยิ่งทำก็ยิ่งเครียด ยิ่งเครียดก็ยิ่งลน พอลนมากๆงานก็เสีย แล้วมันก็กลับมาเครียดอีก...ตายเลยงี้
ปล่อยวาง หาอะไรที่ทำแล้วคลายเครียดได้ อยากกินเหล้าก็กิน ไม่ต้องไปสนใจเข้าพรรษา (เพราะเข้าพรรษาไม่ได้ทำให้เราหายเครียดนี่หว่า) พวกพี่คิดงานออกตอนกินเหล้าก็บ่อยๆ บางทีมันมาถกกันเรื่องโครงสร้างตึกในวงเหล้านั่นแหละ...เพราะมันผ่อนคลายไง สมองเลยแล่น
สุดท้ายก็วกมาเรื่องกินเหล้าจนได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ
สู้ๆคับคุณน้อง

Yim S. กล่าวว่า...

เหอๆ ตอนนี้ยิ้มไม่เหลือกรอบใดๆ ในชีวิตแล้วค่ะ
ผ่านไปวันๆ เอาตัวรอดไปครั้งๆ
ไม่เหลือความคาดหวังใดใดด้วย

เพราะอะไรที่เราคาด มันไม่เป็นไปตามคาดสักอย่าง - -'

ขอบคุณเด้อ ที่แวะเข้ามาให้กำลังใจ

Yui @ York กล่าวว่า...

สุขหรือทุกข์ อยู่ที่ใจค่ะน้องยิ้ม ขอเพียงเรามีสติรับรู้และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆที่เข้ามา
พี่เคยเครียดหนักๆอยู่2ครั้งในชีวิต หนแรกเนี่ยพี่เกือบตาย จะตายจริงๆค่ะ มันหยุดหายใจไปเลย ถึงได้มีสติฟื้นขึ้นมา และรุ้ว่าไม่มีใครช่วยเราได้ ตัวเรานั่นแหละคือที่พึ่งแห่งตน
พอเครียดหนสอง ก็รู้ตัวเองแล้วว่า กำลังเครียดและก็สามารถหาทางจัดการกับปัญหาของตนเอง (ซึ่งก็คือหางานใหม่ แล้วพอดีได้ทุนมาเรียน 555 เหมือนหนีเสือปะจรเข้ไหม เครียดหนักกว่าเดิม 5555) การเรียนไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ ต่อให้จบเอกแล้ว ก็ยังต้องศึกษาต่อไป (ให้เครียดหนักกว่าเดิม 555555)
เราต้องมีสติ เมื่อเครียดและรับรู้ว่าเครียดแล้ว ให้หาอะไรทำ อย่าไปจมปลักกับความรุ้สึกนั้นๆน่ะ เพราะจิตมันจะตก
ยังไงก็สู้ๆนะคะ

Heathrow :D กล่าวว่า...

น้องยิ้ม
พี่ไม่ได้มาเยี่ยมนานเลย
ช่วงนี้ ยังเหนื่อยอยู่เหรอครับ

เห็นด้วยว่า การจะต่อ PhD มันต้องใช้ความพยายามมากเลยเนอะ

ถ้าเราเครีย เหนื่อย บางทีเราคงจะต้องวกกลับไปดูที่ ต้นตอ ในสิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจว่าเป็นอะไร เราเรียนแล้วเหนื่อย ไม่มีความสุขเพราะอะไร

อาจารจย์ที่ปรึกษา หัวข้อที่ไม่อยากทำ งานเยอะเกินไป หาทางออกไม่เจอ

หรือว่า เราแค่ "เหนื่อย" เกินไปเท่านั้น

ถ้าเป็นอย่างหลังนี่ การออกไปพักผ่อน ไปเที่ยว หยุดพักผ่อนหย่อนใจสักนิดมันน่าจะดีขึ้นครับ

แต่ถ้ามันมีปัญหาค้างคาอยู่ พี่ว่าก็ต้องมุ่งไปแก้ที่ต้นตอของปัญหาครับ เพราะถ้าไปพักผ่อน ปัญหามันก็ยังคงอยู่ ถ้าแก้คนเดียวไม่ไหว ก็อาจจะต้องหาเพื่อนๆช่วยคิดช่วยแก้ครับ


เป็นกำลังใจให้นะครับ หวังว่าความสุขจะกลับมาหาในเร็ววัน

Yim S. กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ พี่ยุ้ย
ตอนเขียนจิตมันตกนิดๆ

ตอนนี้กำลังแก้เครียดอยู่
คือไม่ทำงานมันซะเลย 5555

ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
ดูผู้ใหญ่ลีกับนางมา ร่าเริงใจ

Yim S. กล่าวว่า...

หวัดดีค่ะ พี่คูณ ไม่เจอกันนานเลย

ต้นตอของความเครียดอันดับแรกคือ ยิ้มคิดว่ายิ้มเลือกสายผิดคะ เลอกเรียนในสาขาที่ไม่ได้ชอบจริงๆ แต่เลือกเพราะสายนี้น่าจะมีงานทำ แก้ตอนนี้คงไม่ได้แล้วค่ะ ทำไปแล้วกว่าครึ่งทาง ยิ้มอยากเรียนสายปฏิบัติน่ะค่ะ field archaeology หรือไม่ก็ conservation แต่ตอนนั้นมันมข้อจำกัดให้เลือกไม่ได้ พอมันไม่ใช่..ยิ้มก็ไม่มีแรงบันดาลใจอื่นๆ ไปด้วย

คนอาจจะมองว่าทำไมเครียดบ่อย...^ ^' คือหลังจากเคย breakdown ไปครั้งนึงตอนต้นปีที่มีแต่เรื่องยุ่งๆ แล้ว มันควบคุมสมองและสติตัวเองได้ยากกว่าเดิมน่ะค่ะ ยิ้มก็พยายามฟื้นฟูสภาพจิตอยู่

Aim Kulwat กล่าวว่า...

เราเข้าใจยิ้มนะว่าทำไมถึงเครียดมาก ๆ

เวลาที่ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ไม่มีแรงบันดาลใจใด ๆ มันทรมานสุด ๆ

แต่ชีวิตมันไม่ได้มีทางให้เลือกมากมาย หลายครั้งที่ต้องยอมอดทนทำสิ่งที่ไม่อยากทำ

เราเชื่อว่ายิ้มเข้มแข็งพอจะผ่านมันไปได้นะ ทำเท่าที่ต้องทำให้ดีที่สุดก็พอ

อะไรที่มันมากเกินกว่าจะทำไหว จะรับไหว ปล่อยมันไป

ชีวิตคนเรามันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขแล้วล่ะ

เพราะฉะนั้น ใช้ชีวิตให้มีความสุขนะ

เพื่อนคนนี้เป็นกำลังใจให้

Aim

Heathrow :D กล่าวว่า...

น้องฮา ท่าจะไปแอ่วซะละ

atithep chaiyasit กล่าวว่า...

สู้ๆ ครับ ผมเองก็เครียดหลายครั้งหลายหน อยากทำวิจัยสักที แต่ต้องเอาเวลาไปเรียนเสียมาก ที่ผมไม่เรียนสายสังคม และเลือกวิทยาศาสตร์ เพราะต้องการได้ความรู้ใหม่ๆ ทุกวัน ซึ่งแน่นอนมาจากการวิจัย โดยรวมก็มีความสุขดี ? ฮาๆ ยังไงเราก็ต้องสู้กับมัน

แต่พี่สาวมีข้อจำกัดมากกว่า เชื่อว่าถ้าลองได้จบมาแล้ว ก็คงจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำอ่ะ ^^ สู้ๆ เขาแล้วกัน