





หนึ่งผลงานสร้างสรรค์อันบรรเจิด
แม้จะไม่งามเพริศด้วยสีสัน
แต่เปี่ยมด้วย 'ชีวิต' ไม่ผิดกัน
คือความจริงคือความฝันแห่งวันเยาว์
หากวันหนึ่ง...ไม่พอใจในภาพนี้
เพราะแสงสีอ่อนจางอย่างภาพเก่า
อยากเปลี่ยนแปลงสร้างสิ่งใหม่ให้ 'ตัวเรา'
กลายมาเป็นเรื่องเล่า...ของผ้าใบ
เริ่มแต่งเสริมเติมสีให้จัดจ้าน
แปรงชีวิตผลิตงานอันสดใส
ระบายทับตัวตนไม่สนใจ
ว่าเคยเป็นเฉกเช่นไร...ในรอยกาล
ภาพเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของหล่มโลกย์
ระบายโศก...ตาปรอยรอยยิ้มหวาน
ตวัดแปรง...แสร้งหัวเราะแสร้งเบิกบาน
เติมสำราญ...แต้มโมโห แต่งโกรธา
ภาพชีวิตเปลี่ยนไปไม่ซ้ำซาก
แต่วิญญาณดุจโดนพรากจากสังขาร์
บนผ้าใบ...นั้นคือใครให้คุ้นตา
ลืมไปว่าภาพที่เห็นเป็นตัว 'เรา'
จากภาพจริงสีอ่อนตอนแรกเริ่ม
ถูกแต่งเติมเร่งสีด้วยความเขลา
กิเลสหนามาก่อร่างสร้างแสงเงา
ช่างน่าเศร้า...โอ้ตัวตน อยู่หนใด
กว่าจะรู้ก็กลายเป็นเส้นซ้อนทับ
สนิทแน่นเกินจะกลับไปแก้ไข
คราบติดแน่นซึมซาบอาบแก่นใจ
ผืนผ้าใบ...นำเรื่องเศร้ามาเล่าเอย
................................................
ไม่ได้เขียนมานานเลยนะคะ พี่น้อง กลับมาเขียนอีกที ตอนนี้อาจจะยังไม่เพอร์เฝ็ค แต่ร้างไปนานกว่านี้คงจะไม่ไหวแล้ว สนิมอาจจะขึ้นถาวร เลยต้องกลับมาเขียนกลอนบ้าง อะไรบ้าง ก่อนที่ต่อมงานประพันธ์จะหดหายไปเพราะไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานาน
ความอยากเขียนกลอนบทนี้มันเกิดขึ้นตอนที่เบื่อเขียนงานส่ง เลยหนีไปเล่นโฟโต้ชอปน่ะค่ะ เกิดบ้าๆ ขึ้นมา อยากทำรูปเซ็ตสยองขวัญให้อินเทรนด์กับ musical ที่เล่นชนกันอยู่ขณะนี้ เลยลองเปลี่ยนหน้าตัวเองเป็นรูปวาดดูดิ๊ สยองพอรึเปล่า เปลี่ยนไปหลายๆ ครั้งก็เลยเกิดความคิดว่า...
ตัวตนของคนนั้น แรกเริ่มเดิมทีก็มาด้วยความว่างเปล่า บริสุทธิ์ สดใส กันเป็นส่วนมาก การเลี้ยงดูมีผลต่อความคิด สติปัญญา สามัญสำนึก...และผลจากการเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อมในวัยเยาว์ก็ก่อให้เกิดการกระทำ ซึ่งสิ่งนั้นก็มีผลมากๆ กับ 'ความเป็นตัวตน' ของแต่ละคน
เราอาจจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อสิ่งโน้นสิ่งนี้ ต้องหัดใส่หน้ากาก ต้องดิ้นรนจนขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้จนกลายเป็นคนเก็บกด พฤติกรรมเหล่านี้...ถ้าไม่หัดที่จะชำระบ่อยๆ ก็เหมือนการวาดภาพใหม่ทับลงไปบนภาพเดิมครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนในที่สุดก็ยากที่จะพิสูจน์ว่าภาพแท้ๆ แต่ดั้งเดิมคือภาพไหน
ยกเว้นว่าคุณจะทำงานที่พิพิธภัณฑ์ - -'
เม้าท์มาได้เวลา ก็ขอลาจาก วันหลังจะมาเม้าท์ใหม่ จะพยายามหาเรื่องเบาสมองมามั่งนะคะ ^ ^'
11 ความคิดเห็น:
ก็ยังเจ๋งอยู่นะเนี่ย หุหุหุ
อิอิ มาเป็นภาพ มาเป็นกลอน เชียว ^^
พูดถึง โฟโต้ชอป นี่เล่นไปเล่นมาก็สนุกดีเหมือนกัน
มากันเป็นคร่าวเป็นเครือเลยทีเดียว (Local Term มากๆ กร๊าก)
รูปแนวดีนะ พี่ชอบ :D
ชอบค่ะ คำกลอนซ่อนเงื่อนเปรียบเทียบได้ดี สอนคนอ่านไปในตัวเลย ขอบคุณนะคะ อ่านบทกลอนแล้วมาย้อนดูตัว ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีดี และคำเตือนอันแสนฉลาด อ่านแล้วไม่กระตุ้นอีโก้ว่า ตนแน่ใครเตือนไม่ได้ นี่คือสุนทรีแห่งภาษาค่ะ
พี่เบิร์ด: ขอบคุณค่า ^ ^ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบล็อกกลอนนะ มิช่าเชื่อ ว่าพี่เบิร์ดจะชอบกลอน หุหุ
แชมป์: อื่ม เล่นยามเบื่อๆ ก็สนุกดีแล ^ ^
พี่กิฟต์: ฮ่ะ ๆ อัตลักษณ์แรงมั่กมาก
คุณ Opore08: ขอบคุณมากๆ ค่า ที่แวะเข้ามาอ่านกลอนเรื่อยๆ นะคะ ^ ^ ชอบใช้ภาษากลอนบอกอะไรๆ เหมือนกันค่ะ หุหุ คงต้องหัดลับให้คมกริบซะแล้ว
อ้าวๆๆ ทำเป็นเล่นไปคับคุณน้อง ตอนเด็กๆนี่พี่แต่งกลอนเป็นซีรี่ส์ เพื่อนๆรออ่านกันเป็นรายสัปดาห์เลยทีเดียวนะคับ
V nice na Yim! :) You're v talented na. Very 'tist dee :) P'Beer
อ่านรู้เรื่องมั้ยคะพี่เบียร์ ^ ^'
ภาษาไทยไปหน่อย แหะๆ
กลัวเขียนภาษาอังกฤษแล้วไม่ได้อารมณ์
I think so a na. It's about changes chai mai? About the longing for a new 'us'. But then we sometimes changes too much that we forget who we really are? Maybe I'm wrong a na but that's my guess anyway :)
I think so a na. It's about changes chai mai? About the longing for a new 'us'. But then we sometimes changes too much that we forget who we really are? Maybe I'm wrong a na but that's my guess anyway :)
ประมาณนั้น ^ ^
แสดงความคิดเห็น