ตะวันลับตะวันฉายพร่างพรายแสง
ผ่านคืนวันไร้คนเคียงเพียงก้อนแลง
มาบัดนี้คนยื้อแย่ง...แฝงเล่ห์กล
กรรมใด...เคยก่อไว้ในหล่มโลกย์
เกล็ดความโศกปลิวผสานกับม่านฝน
ชลนาในอกข้า..หลั่งหลากวน
รินท่วมท้นปนน้ำปรายสายพิรุณ
ข้าก่อเกิดเพื่อก่อเกียรติใช่เคียดแค้น
ใช่ก่อเกิดเพื่อแบ่งแดนให้ข้องขุ่น
ใช่สมบัติเพื่อน้อมรับประดับบุญ
ใช่แหล่งทรัพย์มาเจือจุนหนุนบ้านเมือง
โอ้..ทวยเทพผู้ทรงธรรม์สวรรคา
ไยทอดทิ้งปวงข้าไม่นำเนื่อง
ฤๅก้อนหินหมิ่นใจให้ขุ่นเคือง
จากรุ่งเรืองเป็นแรมร้างอยู่กลางไพร
ฤๅต้องคำสาปสรรค์จากชั้นฟ้า
ฤๅมนุษย์ผลาญพร่าไม่ปราศรัย
ตามสันดานโลภหลงตรงกลางใจ
ฤๅโลกหมุนเวียนไปไม่หวนคืน
น้ำตาหินรินหลั่งล้นบนภูผา
อาณาเขตถูกคร่าแยกเป็นอื่น
ถูกชำแหละแบ่งส่วนหวนกล้ำกลืน
คงไม่อาจย้อนคืน..ขื่นหทัย
ก้อนหนึ่งทับอีกก้อนหนึ่งพึงสร้างสรรค์
ลายจำหลักเทพเทวัญอันยิ่งใหญ่
ตระการตาเคยคู่ฟ้าเทวาลัย
จากนี้ไป..มีแต่จะแย่ลง
เมื่อรัฐชาติผลาญพร่าคร่าแบ่งส่วน
ก้อนหินได้แต่คร่ำครวญหวนสาปส่ง
ทำได้เพียงปล่อยวางพลางปลดปลง
ข้อบาดหมางยังยืนยงคงปฐพี
พระพายชายชื่นเชยรำเพยถิ่น
จากปราสาทเป็นกองหินสิ้นศักดิ์ศรี
เป็นเครื่องมือแห่งอำนาจบารมี
ให้ลูกหลานมนุษย์นี้ชี้ชะตา
................................................................................................................................
กระแสที่กำลังฮอตฮิตทุกวันนี้คือกรณีปราสาทพระวิหาร ถ้าไม่โวยวาย ถ้าไม่เจ็บปวด ถ้าไม่อยากได้คืน อาจจะถูกตราหน้าว่าไม่ใช่คนไทย (ที่ดี) และในฐานะว่าที่นักโบราณคดีที่ดี ข้าพเจ้าก็ควรจะไม่รีรอ กระโดดออกมาปกป้องสิทธิ์ของประเทศชาติทันที แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เกิดความรู้สึกว่าอยากจะโจนลงไปในกระแสเผ็ดร้อนเท่าไหร่นัก เพราะมันดูจะเป็นเครื่องมือทางการเมืองมากเกินไปแล้ว ข้าพเจ้าเหนื่อย(ใจ)กับการเมือง แต่ใครจะสนับสนุน (ในพื้นฐานของเหตุและผล ไม่ใช่ใช้อารมณ์) ข้าพเจ้าก็รู้สึกชื่นชมด้วย และอยากขอฝากนิดหนึ่งว่า เหตุผลๆ ๆ จงใช้เหตุผลไม่ใช่อารมณ์ ข้าพเจ้าอ่านข่าวในหน้าผู้จัดการ เจอความเห็นประเภทไม่สร้างสรรค์มาเยอะ อาทิเช่น
"ถ้าเขาได้บรรจุปราสาทพระวิหารลงไปใน list จะเอาระเบิดไปปา" (เอ็งจะบ้ารึเปล่า นั่นมันมรดกโลก มันก็มรดกของเอ็งด้วยนะเว้ย)
"ของของเรา มันเอาไปตั้งแต่แรก เอาคืนมาๆๆ ไอ้พวกขี้ขโมย" (เอ่อ...อันนี้ก็อินไปนิดนึงนะ - ก็ใช่ ถ้ายึดหลักตามสันปันน้ำ ตัวปราสาทอาจจะอยู่ในกลุ่มโบราณสถานในเขตประเทศไทย แต่จะว่าเขาไม่มีสิทธิ์อ้างเลย มันก็ไม่ใช่นะ ข้าพเจ้าคิดว่า...ไทยหรือกัมพูชาก็มีสิทธิ์อ้างและหาเหตุผลที่เหมาะสมมาแสดงความเป็นเจ้าของได้พอกัน ขึ้นอยู่กับว่าช่วงไหนๆ ใครจะได้เปรียบกว่ากัน เท่านั้นเอง)
ใช้ - เหตุ - ผล - ให้ - มาก - กว่า - อา - รมณ์ - ก่อน - มัน - จะ - ลุก - ลาม - มาก - ไป - กว่า - นี้ - นะ - คะ
คงเพราะกระแสนี้ด้วยล่ะมั้ง...ที่ทำให้ข้าพเจ้าเหนื่อยใจ รู้สึกอยากร้องไห้ให้ก้อนหิน แย่งกันไป แย่งกันมา ไม่มีจบสิ้น
เราพลาดตั้งแต่ชาติตะวันตกมากำหนดพรมแดนรัฐชาติแล้วแหละ ในสมัยก่อน...พรมแดนอาณาจักรมันไม่ใช่แค่แม่น้ำหรือภูเขากางกั้นแบบนี้เสียหน่อย มาถึงตอนนี้...การเป็นเจ้าของเขาพระวิหารมันไม่ใช่แค่ได้ตัวสถานที่มา แต่มันหมายถึงอำนาจทางการเมือง การสนับสนุนของชาติตะวันตก และอะไรอีกมายหลายประการ
ตอนวาดแผนที่ก็ให้ฝรั่งเศสมามีบทบาทต่อกรณีพิพาทไปทีหนึ่งแล้ว นี่จะให้วิธีการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมแบบตะวันตก (UNESCO World Heritage Convention) มาเป็นชนวนปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านอีกเหรอ...
กลุ้มใจจริงๆ
15 ความคิดเห็น:
นั่นน่ะสิ เจ็บปวดจากการเสียเปรียบตะวันตกในเรื่องนี้ไปแล้วยังไม่หลาบจำ แต่ก็อย่างว่ากรุงศรีแตกก็เพราะคนไทยมันเป็นไส้ศึกกันเอง..
จริงๆ พี่ก็ติดตามข่าวอยู่เนืองๆครับ
ตามความคิดพี่ว่าไม่ควรจะถูกดึงมาเกี่ยวข้องกับการเมืองครับ
เพราะ ตอนนี้การเมืองในประเทศไทยมันซับซ้อนมากมายเหลือเกิน มีหลายกลุ่มหลายอุดมการณ์หลายจุดมุ่งหมายมาก ไม่ได้ถูกแบ่งเป็นสองกลุ่มอย่างที่เราเห็นครับ
อยากจะเขียนแสดงความคิดเห็นลง blog เหมือนกันแต่เกรงว่ามันจะเครียดไป
อย่างไรก็ดี ในที่สุด ประเด็นเขาพระวิหารนี้ก็ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองแบบช่วยไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดครับ ที่ประเด็นทางวัฒนธรรม กำลังถูกขับด้วยเหตุผลทางการเมืองล้วนๆ
เขาพระวิหารถึงแม้ไม่ขึ้นทะเบียน ก็เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของตัวมันเอง เป็นสมบัติของโลกอยู่แล้ว เป็นสมบัติของคนในภูมิภาคนี้ทุกคน
ตามความคิดเห็นพี่แล้วคิดว่า ควรแยกการมองเขตแดนทางวัฒนธรรม ให้ต่างจาก พรมแดนทางการปกครองครับ ปูชณียสถาน ไม่ได้มีแค่ ตัวประสาท แต่น่าจะมีบาราย และอะไรที่รายล้อมกินพื้นที่มากอยู่ จึงอาจจะกว้างจนกินพื้นที่และเกินกว่าจะเป็นของประเทศใดประเทศหนึ่งได้ จริงๆเราน่าจะร่วมกันเป็นเจ้าของได้ครับ
มันอยู่ที่อัตตาเนอะ ใครก็มองว่า ของเรา เคยเป็นของเรา
มันอยู่ที่ช่วงเวลา ถ้าเป็นก่อนสมัยสุโขทัย พื้นที่ของอาณาจักรขอมขยายมาจนถึง อยุธยาแน่ะ ดูจากศิลปะภาคอีสานของเราก็ได้รับอิทธิพลของขอมทั้งนั้นเนอะ เราทุกๆคนได้ร่วมกันเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ของภูมิภาคนี้ก็คงจะเข้าใจและประนีประนอมกันมากขึ้น และคงพึ่งพา การชี้นำของชาติตะวันตกน้อยลง ;D
เห็นด้วยคับ...
เหอๆ ๆ
การเมือง อำนาจ ความหอมหวาน - -'
ใช่ค่ะ...
แถวๆ บ้านเราผ่านลัทธิชาตินิยมมาเยอะเกิน...
ส่วนมรดกทางวัฒนธรรม...คงจะไม่มีทาง value-free หรือ politics-free หรอกค่ะ มันเป็นสิ่งที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในอดีต เป็นความภาคภูมิใจของปัจจุบัน ที่อาจกำหนดบทบาทของประเทศใดๆ ในอนาคต
นั่นสิเนอะ
พึ่งได้เห็นรูปนะเนี่ย ตะก่อนแม่เคยเล่าให้ฟังเหมือนกัน
แต่นึกว่าเขาพระวิหาร หน้าตาเหมือนพระธาตุอินทร์แขวน ที่เป็นก้อนหินลูกกลมๆ อยู่บนหน้าผาอ่ะครับ (เคยเห็นหน้าซองยาลม 5 5 5)
พูดแล้วก็อยากไปพระธาตุอินทร์แขวนเหมือนกันนะเนี่ย ^ ^
ที่เชียงแสนอ่ะค่ะ มีพระธาตุผาเงา เป็นองค์พระธาตุอยู่บนก้อนหินเหมือนกัน แต่ไม่ได้อยู่ตรงหน้าผา อยู่ตรงเชิงเขา ด้านบนมีพระธาตุสร้างใหม่ อยู่ติดแม่น้ำโขง วิวสวยมาก วัดก็สงบ ร่มรื่น น่าไป
(นอกเรื่องนี่หว่าตู = =')
พี่ว่า... เรื่องแบบนี้ มันเป็นการสร้าง sentiment ที่ไร้มนุษยธรรมมากที่สุดเลยล่ะ
ของที่ไม่ใช่ของๆ เรา มันก็ไม่ใช่ของๆ เรา จะไปยื้อมาทำไมให้อายขี้หน้าชาวโลกเขา
ถ้าจะว่ากันไปพี่ว่าบางทีมันอาจจะไม่ใช่ของ "สยาม" มาตั้งแต่ทีแรกแล้วก็ได้
ไม่รู้วุ้ย ความคิดพี่สวนทางกับความคิดกระแสหลัก เหอๆๆ
ชาตินิยมนำไทย (ไปทางไหน?)
เหอๆ ประมาณนั้นแหละ
แต่ตอนนี้มันเป็น วัตถุที่ถูก exploit โดยการเมืองไปแล้ว คงไม่หวนกลับแล้วมั้ง
สุดท้ายก้อนศิลาแลงก็ได้แต่ร้องไห้ เพราะโดนยื้อแย่ง แยกส่วน เพราะพรมแดนรัฐชาติที่กำหนดโดยชาติตะวันตก แถมด้วยระเบิดเวลาอัตลักษณ์ที่ถูกฝังเอาไว้ให้ระเบิดบู้มๆ ระหว่าไทย - กัมพูชาเป็นครั้งคราว
politics is everywhere...
นั่นสิเนอะ ^ ^
การรวมกลุ่มของมนุษย์ 2 คนขึ้นไปก็ก่อให้เกิด politics ได้ทั้งนั้น หุหุ
ตกลงกัมพูชาเขาได้มรดกโลกแล้วนะ
คนที่นี่ก็ทุรนทุรายกันใหญ่ เฮ้อ...
ได้รับข่าวแล้วครับ
แต่พอดี เนี่ยสอบทุนเสร็จก็เลยไปตามๆข่าวดู รู้แล้วล่ะครับว่าทำไมมันเป็นประเด็นขึ้นมา
คือประเด็นหลักๆ พี่ว่าไม่น่าจะใช่เรื่อง "มรดกโลก" หรอกครับ แต่เป็นเรื่อง "อธิปไตย"
เพราะว่า พื้นที่ส่วนพระวิหาร เป็นข้อพิพาท กันมาตั้งแต่แรก ยังไม่ได้ ชี้ชัด ว่า เป็นของไทยหรือเขมร เพราะว่า มีการตกลงใน 2 สนธิสัญญาที่มีเนื้อหาแตกต่างกัน แต่ละฝ่ายก็อ้างถึงสนธิสัญญาที่ผ่านตนได้เปรียบ
โห เรื่องราวมันลึกซึ้งเนอะ
แต่ก็เงี้ยครับ มันก็เหมือนเราทะเลาะกับเพื่อนข้างบ้านเรื่องต้นไม้ที่ยื่นเข้าพื้นที่กัน แต่เราไม่ยอมตกลงกันก่อน ต้องให้ตำรวจมาตัดสิน
เออ ช่วงนี้ไม่ว่าง
ออกนอกบ้านทุกวัน ไม่ได้เข้าเนตเลย
ไว้เดี๋ยวได้เข้าเนตจะไปตามข่าวดูอีกทีนะคะ
แสดงความคิดเห็น