วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ชีวิตปริญญาเอกปีแรก ณ University of York

Rating:★★★★
Category:Other
กลับมาจากเมืองไทยก็จมจ่อมลงไปกับโลกส่วนตัวบ้าง สังสรรค์บ้าง อาจจะห่างๆ หายๆ จากการอัพเดตไปบ้างเล็กน้อยนะคะ จริงๆ ก็พยายามจะมาอัพเดตหลายครั้งแล้วล่ะ แต่ช่วงนี้อินเตอร์เน็ตมันสามวันดี สิบวันป่วง อัพรูปก็ยากเย็น อัพบล็อกก็เข็ญใจเหลือเกิน

ช่วงนี้คิดว่า...ค่อนข้างจะลงตัวแล้วนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการต่างๆ และสภาพจิตใจ ซึ่งตอนกลับมาแรกๆ มันก็เหงาบ้าง เพราะทั้งสภาพความเป็นอยู่ในเชิงอากาศและอาหารที่กำลังขึ้นถึงจุดรุ่งเรืองสุดยอดอยู่ดีๆ (ที่เมืองไทย) ก็กลับหล่นวูบบบบบบ ลงมาอยู่ในสภาพที่อากาศก็แย่ อาหารก็...ยังมีเครื่องปรุงไม่ครบเลย อยากจะทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ เพราะคุณแฟลตเมตที่รักชอบวางอุปกรณ์เกลื่อนกลาดเชียว ก็ต้องปรับตัวไปพักใหญ่ๆ

ขอสรุปความเป็นอยู่ง่ายๆ เลยละกันค่ะ เวลามีคนทักถามมาจะได้ส่ง link หน้านี้ไปให้ดู พูด(พิมพ์) หลายๆ รอบก็เมื่อยนิ้วเป็นเหมือนกันนะจ๊ะ

1. แฟลต

หน้าตาก็คล้ายๆ แบบเดิมน่ะค่ะ แต่ย้ายตึก ปีก่อนเพื่อนร่วมแฟลตเป้นหญิงล้วน แต่ละนางเป็นแม่ศรีเรือนสุดฤทธิ์ ครัวเอี่ยมสะอาด ทำอาหารพร้อมกันทุกวัน แลกเปลี่ยนอาหารกันกิน จัดงานสังสรรค์เนืองๆ กุ๊กกิ๊ก น่ารัก คิกขุ สุขสันต์เฮฮา ปีนี้....กลับตาลปัตรค่ะ ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะคะ ^ ^' แต่ลักษณะนิสัยต่างกันมากเท่านั้นเอง

เริ่มจากสาวข้างห้องชาวแคนาดาตัวสูงปรี๊ดดด คนนี้ออกจะใกล้เคียงกับเพื่อนปีที่แล้วที่สุดค่ะ มีการทำอาหาร ทำขนม ใช้ครัวเนืองๆ แถมรักความสะอาดด้วย ก่อนที่อิฉันจะได้ออกโรงบ่นกับความโสมมของห้องครัว เจ๊บ่นไปก่อนแล้วค่ะ มีการเขียนจดหมายตักเตือนติดประตู ซึ่งทำให้สมาชิกท่านอื่นเกรงใจขึ้นมาหน่อย ค่อยยังชั่ว อาทิตย์หลังๆ มาค่อยเข้าครัวได้หน่อย เจ๊เป็นหนึ่งในคณะประสานเสียง (quoir) ของมหาลัยด้วยค่ะ วัน(ไม่)ดี คืน(ไม่)ดี จะได้ยินเสียงเพลงของเจ๊ลอดหน้าต่างมา ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ว่ากัน เพราะบางทีข้าพเจ้าก็เล่นคีย์บอร์ดร้องเพลงไทยประชันเหมือนกัน

ถัดไปอีกห้องเป็นผู้ชายคนเดียวของแฟลตค่ะ ชื่อวิลเลียม...เดี๋ยวววว อ่านไปอาจจะเผลอคิดว่าเป็นคนอังกฤษ ไม่ใช่ค่ะ จริงๆ เป็นคนจีนที่อยู่อังกฤษมานานแล้ว ดังนั้นสำเนียงพี่แกจะไม่คล้ายสำเนียงคนจีนทั่วไป มีกลิ่นไอสำเนียงอังกฤษอยู่มากทีเดียว นิสัยก็ไม่ค่อยเหมือนคนจีน เฮียคนนี้...ยังโสดค่ะ แต่ดูค่อนข้างเจ้าชู้ ชอบพาเพื่อนมาสังสรรค์ บางทีก็เจอสาวหน้าตาจิ้มลิ้มอยู่ในห้อง เฮียแกบอกว่าไม่ค่อยสังสรรค์กับคนจีนเท่าไหร่ แต่เห็นเพื่อนมาทีไรก็คนจีนทั้งนั้นนี่หว่า...งงเลยตู

ถัดไปอีกห้องเป็นสาวจีนร่างเล็ก รายนี้อยู่อเมริกามานาน ชอบหาพวกค่ะ - -' เจ๊มีอัธยาศัยดีมาก - มากที่สุด อยู่มา 2 อาทิตย์กว่าๆ เจ๊มาเคาะประตูห้องแล้วหลายครั้ง ชวนไปกินข้าว 2 ครั้ง ชวนไปเที่ยวกลางคืน 1 ครั้ง ชวนไปนั่งจิบชาคุยเฉยๆ 2-3 ครั้ง มีอยู่วันหนึ่งเจ๊ชวนคุยตั้งแต่ทุ่มถึง 5 ทุ่ม ดูเจ๊จะมีความสนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงมากเป็นพิเศษ อยู่กับเจ๊ต้องระวังตัว เดี๋ยวจะโดนจับคู่และประเหลาะถามเรื่องส่วนตัวได้ง่ายๆ โชคดี ที่ตอนนี้ไม่มีข่าวอะไรให้แกสืบ - -'

อีกห้องคือสาวอังกฤษ เขียนถึงไม่ได้ค่ะ...เพราะอยู่มาตั้งนาน เจอเจ๊ครั้งเดียว ดูเหมือนว่าเจ๊จะไม่ค่อยใช้ครัวเท่าไหร่ตามประสาผู้หญิงอังกฤษยุคใหม่ ทำอาหารไม่เป็น

อีกสาวคือสาวแดนกังหัน อัธยาศัยดีเหมือนกัน เจอเจ๊ประมาณ 2-3 ครั้ง เพิ่งทราบว่าเจ๊เป็นคนจัดเวรทำความสะอาดในแฟลตเอง จริงๆ ก็ดีนะ แต่ไม่เห็นคนอื่นจะทำตามเลยอ้ะ กลุ้มใจ - -'
ปีก่อนวิวจากหน้าต่างเป็นด้านหน้าของคอลเลจ ปีนี้เป็นทุ่งค่ะ บางทีมองออกไปก็เหงาๆ เหมือนกันนะ แต่ก็สวยไปอีกแบบดังภาพต่อไปนี้







ดูเย็นตาดีไหมล่ะคะ วันดีคืนดี มีวัวมาเดินเล่นด้วยนะคะ งานอดิเรกทุกวันนี้ก็คือ...
สังเกตพฤติกรรมของวัวค่ะ = ='

เพื่อนเอาบทความเกี่ยวกับวัวมาให้แปลอีกรอบ คงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้มากขึ้น กรณีศึกษาอยู่ห่างออกไปเพียงนอกหน้าต่างนี้เอง

2. เรื่องเรียน

ตอนนี้คงเน้นอ่านน่ะค่ะ อ่าน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เข้าไปเพื่อหาโฟกัสให้กับหัวข้อของเรา เฮ้อ...เหนื่อย สายตาตูจะสั้นลงมั้ยเนี่ย บางช่วงที่อ่านเยอะๆ สายตายิ้มแย่มากๆ (แต่ก็ไม่ยอมใส่แว่นเสียที - กลัวแว่นไม่รับกับใบหน้าแล้วจะดูเหมือนป้าน่ะค่ะ หุหุ) จริงๆ อยู่ใกล้ทุ่งก็ดีแล้ว จะได้พักผ่อนสายตาโดยการมองออกไปไกลๆ ฟื้นฟูๆ

ปกติแล้วคนเรียนป.เอกจะมีออฟฟิศส่วนตัว เป็นโต๊ะ กับคอม (คณะอื่นนะ คณะโบราณคดีค่อนข้างแร้นแค้น มีแต่โต๊ะกับ socket ให้ต่ออินเตอร์เน็ต) ปีนี้...คนเรียนเอกในคณะ 24 คนค่ะ ตกใจมาก...โผล่มาจากไหนเนี่ย จะมากเท่านักเรียนป.โทแล้วนะ อย่างนี้ไม่ต้องพูดถึงงานพิเศษในคณะเลยค่ะ คนอยากจะสอนมีเยอะกว่าคนเรียนแน่ๆ - -' ทุกวันนี้ต้องแชร์โต๊ะกับเพื่อนอีกคนในห้องที่แออัด เอิ่ม...แต่ยิ้มคงไม่ค่อยได้ใช้หรอกค่ะ คงเน้นทำงานที่ห้องตัวเองหรือห้องสมุดมากกว่า

ป.เอกมีเรียนน้อย ก็จริงนะคะ เทอมนี้เรียนอาทิตย์ละ 3 ชม เองค่ะ ^ ^' (ปีที่แล้วป.โทอาทิตย์ละประมาณ 20 ชม + ฝีกงานอีก 1 วัน) แต่งานที่ต้องอ่านเองมันก็เยอะอยู่ ช่วงนี้เพิ่งเริ่ม วินัยในตนเองมีน้อยอยู่ เอิ๊กกก

อ่อ...กลางวัน ข้าพเจ้าจะไม่ค่อยออนเอ็มแล้วนะคะ เพราะจะไปสถิตแถวห้องสมุดอ้ะ หรือไม่ก็จะพยายามทำงาน และไปยิม เจอกันช่วงค่ำๆ หรือดึกๆ ค่ะ

3. สังคม

เพื่อนๆ จบไปเยอะเหมือนกันนะคะ หากยังเหลือพี่ๆ กับน้องๆ ที่มาใหม่อยู่ ก็เหงาบ้างเหมือนกันล่ะค่ะ แต่คนเราก็ต้องใช้ชีวิตให้ได้ทุกสถานการณ์นี่นะ อยู่อังกฤษมาตั้ง 6 ปี จัดการกับความเหงาไม่ได้ก็จงไปเลี้ยงเป็ดเหอะ

แต่ว่า...จริงๆ แล้วก็มีการสังสรรค์กันบ้างตามโอกาสนะคะ ไม่ได้แห้งแล้ง ห่อเหี่ยวเท่าไหร่หรอก แค่ไม่ได้ออกแนวปาร์ตี้บ่อยๆ ทำอาหารถี่ๆ แบบที่ผ่านมาทั้งในลอนดอนและเมื่อสมัยเรียนป.โทเท่านั้นเอง












เออ จะว่าไปมันก็เยอะใช้ได้เนอะ


4. ส่วนสภาพทั่วไปของ York และมหาลัย ก็....

ที่ผ่านมาก็ลมแรง...

น้ำท่วม...

บางวันก็แดดดี (แต่มีน้อย...)

บางวันก็หนาววววว จับขั่วหัวใจเลยค่ะ ปีก่อนยังพอมีตึกบังลม ปีนี้รับลมจากทุ่งเต็มๆ แถมรูระบายอากาศยังปิดไม่ได้อีก ช่วงที่มี Sleet (ฝนปนหิมะ) มีหิมะร่วง โหยยยย ห้องนอนตูเย็นเจี๊ยบประหนึ่งตู้แช่กันเลยทีเดียว เรียกว่าต้องใส่เสื้อหนาๆ หลายๆ ชั้นจนกลมเป็นหมี





น้ำท่วม






นี่แหละค่ะ ชีวิตช่วงนี้ ไม่มีอะไรมากหรอกนะ
จะพยายามทำงานไวๆ จะได้กลับไปเก็บข้อมูลไวๆ เสียที


20 ความคิดเห็น:

vee .. กล่าวว่า...

น่าอยู่มากๆ เลยครับ

vee .. กล่าวว่า...

อยากดูภาพวัวน่ะครับ : )

Som Thaksa-on P. กล่าวว่า...

ดีจังเลยยิ้มที่มาอัพบลอกให้เพื่อนๆได้รู้ถึงความเป็นอยู่และมหาลัยในช่วงต้นปีของยิ้ม มันเปลี่ยนไปเลยเนอะจากชีวิตปอโท พูดแล้วก็คิดถึงจังเลย โดยเฉพาะตอนทำอาหารกินกันและปาร์ตี้ต่างๆ รวมถึงไปผับ เหอๆๆ เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ละกันเน้อ ไว้เจอกันที่เมืองไทยตอนยิ้มกลับมาหาข้อมูลละกัน ว่าแต่มันประมาณช่วงปีไหนเหรอ แต่จริงๆก็อยากกลับไปรับปริญญาเหมือนกันนะเนี่ย

Heathrow :D กล่าวว่า...

ดีใจด้วยนะครับ ที่ปรับตัวได้แล้ว

เปลี่ยนระดับการเรียน ก็คงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการศึกษาด้วยอ่ะเนอะ ต้องช่วยเหลือและดูแลตัวเองมากขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ ดูสงบดีครับ
เห็นสาวจีนเยอะๆแล้วจากไปจัง :P

ยังไงก็ขอเอาใจช่วย สู้ๆนะครับ

Gift waidhaya กล่าวว่า...

ท่าทางมีความสุขดีนิ

อีกเดี๋ยวก็ชินกับเพื่อนร่วมหอละมั้ง

whoami * กล่าวว่า...

เรียนปริญญาเอก เก่งจัง
ตอนนี้แค่ปริญยาโท ก็ยังไม่ได้คิดเลย - -"
ไงพี่เอาใจช่วยนะจ้ะ

แล้วต้องเรียนอีกกี่ปีอะน้องยิ้ม?

Charnchai Leuwattanachotinan กล่าวว่า...

ที่นี่ก็ลมแรงเหมือนกันนะ... สงสัยจะลมแรงทั่วเกาะละมั้งเนี่ย - - .. อ้าวโบว์ยังอยู่อีกเหลอ.. ไหนใครว่าบินกลับด่วนไปแล้วไง - -@... นี่พี่ก็กำลังจะเปลี่ยนซุปอยู่เหมือนกัน..ไม่รู้ใครมา.. เค้าดันย้ายไปออสเตรเลีย.. มากินเงินเดือนกับมหาลัยของที่นี่ มันก็แย่หน่อย.. คือจะเลือก Research area แบบว่าตามใจฉันมากก็ไม่ได้.. มันเหมือนมาทำงาน.. นี่ก็พยายามดึงไว้..ว่าตูมาทำ Financial Maths นะเฟ้ย.. ซุปอีกคนชอบพาดึงเข้าไปทาง Actuarial Maths อยู่เรื่อย.. เซ็งจิงๆ.. เด้วก็ย้ายกลับไปยอร์คซะเลยนี่.. ชิมิชิมิ

Nida Darongsuwan กล่าวว่า...

รูปสวยมากเลยจ้า คำอธิบายก็ดี ก็ยังคิดถึงยอร์คอยู่เสมอ
นี คุณแช้ง ดิฉันยังไม่ไปไหนค่ะ แค่กลับมาเยี่ยมบ้านซักเดือน แล้วจะกลับไปที่ยอร์คเหมือนเก่า ยังคิดว่าจะไปเอดินเบอระอีกครั้งเร็วๆนี้ แช้งจะยินดีต้อนรับและพาพวกเราไปเที่ยวหรือทานอะไรหรือเปล่า

Charnchai Leuwattanachotinan กล่าวว่า...

แหม๋.. ตัวจริงๆเสียงจริงมาตอบ.. เชื่อแล้วจ้าาา...

ก็ K มันบอกอ่ะ.. ว่าเผชิญชะตากรรมชีวิตเดียวกับมัน.. บินหนีกลับไปแล้ว... กำ.. - -@

Som Thaksa-on P. กล่าวว่า...

เพิ่งเห็นรูป อิอิ หน้าตาแต่ละคนยิ้มแย้มแจ่มใส ผิดกับอากาศที่ขมุกขมัวและลมแรง ซึ่งดูได้จากคลื่นน้อยๆในทะเลสาบ ยอร์คนี่ก็น้ำท่วมเหมือนเดิม

ปล. พี่โบว์กลับมาเยี่ยมบ้านเหรอคะ ดีจังค่ะ เพราะกลับมาช่วงเดือนกุมภาพอดีเลย สงสัยจะคิดถึงคนที่เมืองไทย เหอๆๆ ท้ายนี้เห็นพี่โบว์ทีไรดูเด็กลงๆ โดยเฉพาะรูปข้างบน เสมือนวัยเดียวกะยิ้มเลยค่ะ

Yim S. กล่าวว่า...

พี่วี: York เป็นเมืองน่าอยู่จริงๆ ค่ะ ถ้ามีโอกาสแวะมาเที่ยวแถบนี้ เดี๋ยวพาเที่ยวนะคะ ^ ^ ส่วนรูปวัว ปีนี้ยังไม่ได้ถ่ายไว้ เดี๋ยวขอค้นภาพเก่าตอนฤดูร้อนปีก่อนก่อนนะคะ

ส้ม1 : ตอนนี้ยังบอกไม่ได้เลย ว่าจะได้กลับไปเก็บข้อมูลตอนไหน คาดว่าน่าจะอีกสักปีล่ะมั้ง คิดว่านะ

พี่คูณ: เอ๋...สาวจีนเยอะตรงไหนคะเนี่ย ในรูปน่ะ คนไทยล้วนๆ นะคะ ^ ^'

พี่กิฟต์: เดี๋ยวก็คงคุ้นแล้วล่ะจ้า ตอนนี้ก็มีการจัดระเบียบเยอะอยู่ สาวเมืองกังหันเริ่มเป็นระเบียบแล้ว กำลังภาวะไม่ให้มีสงครามเย็นเอเชียตะวันออก VS ยุโรป เรื่องการใช้ห้องครัวอยู่ แหะๆ

พี่เวีย: น่าจะ 3-4 ปีโน่นแหละจ้า แหะๆ เรียนจนแก่เลยอ้ะ ยังไม่มีประสบการณ์ทำงานเล้ย..

พี่แชงก์: กลับมายอร์คดิจ๊ะ มาอยู่ด้วยกัน หุหุ คิดถึงๆ

ส้ม2: นั่นดิ พี่โบว์หน้าเด็กมากกกกก

pong photo กล่าวว่า...

สู้ สู้ นะน้องยิ้ม..ฝันให้ไกลไปให้ถึง แรงนะหมดได้แต่กำลังใจต้องคอยหมั่นเติมอย่าให้หมด อุดรอยรั่วด้วย
มีนู๋ๆหลายแสนคนในเมืองไทยที่ไม่มีโอกาสได้เรียนจู๋งงงงงงงงง ได้แต่นั่งมองตาปริบๆๆ
เมื่อนู๋มีโอกาสสำควรทำหน้าที่ให้เต็มเกียร์ 1 2 3 4 5
จะได้กลับมาทำประโยชน์ให้นู๋ๆที่บ้านเฮา พูดให้หึกเหิมนะ 555

Yim S. กล่าวว่า...

ค่ะ พี่พงษ์

สู้!!!! ( ^ ^)V

Santi Santiago กล่าวว่า...

โห..อีกไม่นานแล้ว เมืองไทย จะมีด๊อกเตอร์คนใหม่ ทางด้านโบราณคดี อีกคนเพิ่มขึ้นมา..เก่งมากๆเลยครับ
คนที่เรียนเกี่ยวกับโบราณคดี ตั้งแต่ ป.ตรี ยาวจนไปถึง ป.เอก นี่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนทุนหรือไม่ คงฟันธงไปได้เลยว่า ต้องใจรักจริงๆ .. นับถือมากๆ

ในฐานะศิษย์เก่า โบราณคดี ศิลปากร ใคร่ขอคารวะ สุราชั้นดี ให้แด่คุณยิ้ม ครับ

Yim S. กล่าวว่า...

ฮ่าๆ ๆ
มั่นใจว่านักโบราณคดีจากทุกๆ สถาบันคอแข็งเหมือนกันหมด

ขอบคุณสำหรับสุราชั้นดีนะคะ

Amy Aneknidhi กล่าวว่า...

เก่งจังเรย..สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้
อยากเรียนเอกเหมือนกัน ไว้จะมาปรึกษาน๊า

Yim S. กล่าวว่า...

ขอบคุณมากจ้า เอมมี่
สู้ๆ เหมือนกันนะ

Anya A. กล่าวว่า...

ยิ้มอยู่ที่ยอร์กเหรอ จริงๆไม่น่าเหงานะ ที่นั่นดูคนไทยเยอะออก ที่นี่ไม่ค่อยมีคนไทยเลย
เออ จริงๆปีหลังๆนี่ก็เริ่มเยอะแล้ว แต่ก็คงน้อยกว่าที่นั่น

Nona Liz กล่าวว่า...

ชอบพี่ยิ้มเขียนจังเลยค่ะ
เขียนบรรยายดีและเห็นภาพจังเลย
...แต่ที่สำคัญ...มีเราเล่นกีตาร์ด้วยอ่ะ อิอิ
แอบเซฟก่อน อิอิ

Yim S. กล่าวว่า...

พี่ก็ชอบเพลงที่เก้าเล่นกีตาร์เหมือนกันนะจ๊า...

ต้องการนักร้องบอกได้ อิอิอิ

(เนียนมาก)