วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2550

เรื่องเก่าๆ เล่าเรื่อยๆ: ละครจักรๆ วงศ์ๆ

Rating:★★★★
Category:Other
วันนี้ท่องโลกไซเบอร์ไปเรื่อยๆ ค่ะ ผีขี้เกียจยังเข้าสิงจนไม่สามารถปลีกกายออกมาแปล excavation report ดังที่ควรจะทำได้ โถ่...เศร้าใจเล็กน้อย แต่เรามีจุดยืนค่ะ ^ ^' กลับบ้านทีไร ยิ้มจะตัดขาดจากโลกภายนอกและภารกิจทุกอย่างไปเลยประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อให้ตัวเองปรับเวลาได้เต็มที่ ไม่รู้เป็นไง บินทีไร jetlag ทุกทีเลย แล้วก็มักจะเป็นหนักเสียด้วย เรียกได้ว่ากลับเมืองไทยมานี่ ตื่นบ่ายทุกวัน ส่วนขากลับไปอังกฤษทีไรก็ตื่นมันเสียตี 4 ตี 5 เสียทุกที

จากการท่องโลกไซเบอร์ ทำให้ไปเจอกระทู้ใน pantip.com ที่พูดถึงละครจักรๆ วงศ์ๆ ทางช่อง 7 สี ที่อยู่ยงคงคู่ประชนมานานแสนนาน เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ บางท่านอาจจะไม่ดู หรือไม่รู้จักนะคะ เพราะท่านๆ มีแนวโน้มว่าจะดูช่องเก้าการ์ตูนมากว่า แต่ยิ้มน่ะ...แฟนตัวยงเลยค่ะ สมัยเด็กๆ น่ะ ส่งไปเล่นแฟนพันธุ์แท้ได้เลย ตอนนี้แก่แล้ว...ความทรงจำค่อนข้างจะเลอะเลือนไปมาก ก็พอจำได้ลางๆ เลือนๆ น่ะค่ะ

ช่วงแรกๆ พ่อจ๋า แม่จ๋าก็แสดงความเป็นห่วงเหมือนกันค่ะ เพราะว่ายิ้มออกอาการติดหนึบ ต้องดูทุกเสาร์-อาทิตย์ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการ์ตูน จนเช้าวันเสาร์อาทิตย์ไม่ต้องไปไหนกันแล้ว ถ้าไม่ไปบ้านยายเย็นวันศุกร์ ค้างสองคืน แล้วกลับเชียงใหม่มาบ่่ายวันอาทิตย์...ก็ต้องรอให้รายการภาคเช้าวันเสาร์จบแล้วค่อยออกเดินทาง

แหะๆ แต่ไม่อยากบอกเลย...ว่าราชาศัพท์ข้าพเจ้าค่อนข้างแม่นเพราะดูละครพวกนี้นะเนี่ย...

ชีวิตวันเสาร์ - อาทิตย์ ของยิ้มเริ่มต้นจากตื่นมาก่อน 7 โมงเช้า เพื่อดูการ์ตูนทางช่อง 7 เรื่อง
ที่ฮ็อต ฮิต จำได้ติดใจคือเรื่องเจ้าหนูสามตา ที่ตัวเอกเป็นเด็กเล็กๆ อ่อนแอ แต่ถ้ามีใครเปิดผ้าพันแผลที่ปิดตาที่ 3 ของเขาเอาไว้ พลังจะทวีขึ้นมากมาย (คล้ายๆ กับฮิเอในเรื่อง Yu Yu Hakusho - คนเก่งฟ้าประทาน เลยค่ะ) หลังจากนั้นก็จะกินปาท่องโก๋ จิบน้ำเต้าหู้ร้อนๆ ระหว่างดูรายการเจ้าขุนทอง ตามมาติดๆ ด้วยรายการดิสนีย์คลับ และก็ถึงเวลาละครที่รอคอยแล้ว แหะๆ ๆ เขินจริงๆ ^ ^'

เท่าที่จำความได้...นางเอกและพระเอกละครรุ่นแรกๆ ที่ดูคือ สินี หงส์มานพ กับ ชาตรี พิณโณ ค่ะ ยุคแรกๆ ก็มี สิงหไกรภพ แก้วหน้าม้า อุทัยเทวี นางสิบสอง มโนราห์ โกมินทร์ ดิน น้ำ ลม ไฟ อะไรทำนองนั้น

ต่อมาพระเอกนางเอกก็เด็กลง เข้าสู่ยุคโสนน้อยเรือนงาม ไกรทอง จันทโครพ บัวแก้ว บัวทอง มาลัยทอง ยอพระกลิ่น

แล้วก็มายุคหลังๆ ออกแนวประยุกต์มากขึ้นอย่าง มโหสถชาดก ปลาบู่ทอง แล้วก็มาถึง มิติมหัศจรรย์ แล้วก็เรื่องนี้ล่ะค่ะ ที่ทำให้หักใจ...ตัดสินใจหักดิบ เลิกดูละครจักรๆ วงศ์ๆ ไป จริงๆ แล้วก็ชอบนิยายเรื่องมิติมหัศจรรย์นะคะ เป็นนิยายสมัยใหม่ที่เขียนอิงเรื่องราวปะรำปะราได้ดี แต่พอทำออกมาเป็นละครแล้วดูแปลกๆ เลยถือโอกาสชิ่ง ไม่ได้เบื่อ ไม่ได้เลิกชอบหรอกค่ะ เพียงแต่อยากหลุดออกมาสู่โลกแห่งความจริงบ้าง แหะๆ

จนถึงทุกวันนี้...ถ้าตื่นทัน...ก็ยังอาจจะดูอยู่นะคะ แต่ว่า...เอิ๊ก ส่วนมากจะตื่นหลัง 9 โมงน่ะค่ะ 10 โมงนี่ก็ถือว่าเข้ามากแล้วสำหรับวันเสาร์ (ทำเป็นพูดดีไป วันธรรมดาก็ไม่ได้ตื่นเช้ากว่านี้เท่าไหร่หรอก) หลายๆ ท่านอาจจะคิดว่า

"ดูอะไรเนี่ย เชยจัง"

"เหยยย ไม่สมจริงเลยอ้ะ มีแต่สู้กันๆ ฟันดาบๆ แล้วก็ปล่อยแสง" (เอ่อ...ไม่ใช่หนังมนุษย์ 5 สีนะคะ)

"น่าเบื่อออก ดูอะไรแปลกๆ ไม่อินเตอร์เลย"

ข้าพเจ้าขอปกป้องการดูละครจักรๆ วงศ์ๆ สุดตัวเลยค่ะ เพราะถ้าเราไม่ดูละครพวกนั้นในสมัยเด็ก ก็คงจะไม่รู้จักวรรณกรรมพื้นบ้านหลายๆ เรื่องๆ อย่าง สโนน้อยเรือนงาม ไกรทอง ปลาบู่ทอง อะไรพวกนี้น่ะ และการดูละครพวนี้ก็ได้ซึมซับเอาความละเอียดอ่อนของวัฒนธรรมเก่าๆ ไปได้พอสมควร (แต่ต้องคัดสรรค์ กลั่นกรองก่อนนะคะ บางเรื่องทำออกมามั่วๆ ออกแนวในจินตนาการก็มี) และที่สำคัญ...ดูไปเรื่อยๆ ราชาศัพท์แน่นปึ้กค่ะ สอบตอนป. 6 ได้สบายมาก แหะๆ แล้วการดูละครพวกนี้ก็ทำให้ข้าพเจ้าฟังพวกกาพย์เห่ เสภา หรือเพลงไทยบรรเลงได้โดยไม่เบื่อด้วยนะ ตอนเรื่องไกรทองน่ะ...จำเสภาเริ่มเรื่องได้เลย

"จากตำนานเล่าเรื่องเมืองพิจิตร
มาประดิษฐ์เรียงร้อยถ้อยอักษร
เป็นเค้าความต่อเนื่องเรื่องละคร <---------- data-blogger-escaped-br="br">องค์ภูธรเลิศหล้านภาลัย
มาผสานเคล้าผสมกลมกลืนแต่ง
ทั้งดัดแปลงเข้านิยมสมสมัย
ให้ลูกหลานได้ดูรู้เข้าใจ
เพื่อสืบสานตำนานไทย ไว้ชั่วกาล..."

ไม่รู้ว่าช่องเจ็ดสีจะทำละครแนวนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน และไม่รู้ว่าจะทำออกมาเป็นแนวไหนนะคะ แต่อยากให้มีต่อไปเรื่อยๆ จัง อย่างน้อยมันก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เยาวชนรุ่นหลังจะได้เห็นวิถีชีวิตที่คล้ายๆ กับสิ่งที่เราเคยเป็นมาในอดีต และได้เรียนรู้วรรณกรรมพื้นบ้านแบบง่ายๆ ยอมรับเลยว่าที่เราไปอ่านอิเหนา และขุนช้างขุนแผนนอกเวลาเนี่ย ก็เพราะมีพื้นฐานความชอบจากการดูพวกนี้ด้วยส่วนหนึ่งแหละ

ความชอบเด็กสมัยนี้อาจจะเปลี่ยนไป ตื่นเช้ามาน้องหนูอาจจะดูการ์ตูนก่อน แล้วก็ไปเล่นเกมส์ เด็กๆ อาจจะเล่นเกมส์ต่อสู้ก่อน แล้วค่อยเพิ่มความยากขึ้นเป็นเกมส์ภาษา เกมส์ strategic อะไรทำนองนั้น...นอกจากพัฒนาการด้านการวางแผนและความต่อเนื่องทางความคิดแล้ว เด็กๆ อาจจะซึมซับวัฒนธรรม เอ้อ..การต่อสู้ ความรุนแรงเป็นของแถม หากไม่ระมัดระวังให้ดี

'ต้น' เจริญไปไกลแล้ว อย่าลืมหันกลับมามอง 'ราก' สักหน่อยนะคะ...

ตอนนี้สัญญากับตัวเองไว้ค่ะ ว่าถ้าเล่านิทานเรื่อง สโนไวท์ให้ลูกฟัง และเล่าเรื่องโสนน้อยเรือนงามไปด้วย หรือ...ถ้าเล่าเรื่องเงือกน้อย ก็จะเล่าเรื่องนางอุทัยเทวีให้ฟังควบคู่

คิดไปคิดมา...อ้าว ข้ามช็อตนี่ตู ^ ^' หาคนมาแต่งงานด้วยก่อนดิ แหะๆ ค่อยคิดเรื่องเลี้ยงดู

9 ความคิดเห็น:

B Ble กล่าวว่า...

555+++

อ่านมาตั้งนาน ดูท่าทางว่าจะรำลึกอดีต
พอมาจบตอนท้ายอะนะ ว่าแต่เล่าเรื่องสโนวไวท์เลยหรอ
เรียนเก่งๆอย่างนี้ต้อง เล่าเรียนชีวิตการเรียนดีกว่ามั้ง
( แอบแฝงแนวทาง ปลูกฝังให้แต่เด็ก ) หุหุ

Yim S. กล่าวว่า...

^ ^'

เรียนไม่เก่งหรอกค่ะ
ปีนี้...กว่าจะจบได้หืดขึ้นคอเลยจริงๆ

panuwat charoenphol กล่าวว่า...

ตอนนี้พี่ก็ยังต้องแหกขี้ตาตื่นมาดูโคนันอยู่เลยคับ -_-"

Yim S. กล่าวว่า...

^ ^'

เก่งจังเลยอ้ะ
ยิ้มตื่นมาทีไร การ์ตูนจบเหลือแต่อะไรก็ไม่รู้ งือๆ

ป.ล. หลังๆ การ์ตูนมันก็เหลือแต่โปเกมอน ดิจิม่อนด้วยอ้ะ ดูไม่รู้เรื่อง ^ ^'
สงสัยแก่ไปแล้ว ชอบดูพวก รันม่า แสลมดังค์ แหะๆ

ipanpook p กล่าวว่า...

สงสัยเราจะอายุเท่ากันแน่ๆ เลย เพราะดูละครเรื่องเดียวกัน

:-)

ลัลลลลล้า..............

a mossy กล่าวว่า...

พี่ตื่นมาดูเคโรโระอ่ะ.... ดูพวกกบบ๊องนี่แล้วเหมือนดูตัวเอง - -"

Yim S. กล่าวว่า...

พี่ปอย:อายุเท่ากันเลยเหรอคะ
>_< พี่ปอยทำอายุหล่นไว้ที่ไหนอีก 10 ปี

พี่ยุง: ^ ^' อยากดูเหมือนกัน แต่ว่ากลับมาเกือบอาทิตย์แล้ว ยังตื่นบ่ายโมงครึ่งอยู่เลย เริ่มกลุ้มใจแล้วเนี่ย ต้องตั้งนาฬิกาปลุกแล้วมั้ง

ipanpook p กล่าวว่า...

:-O

อ๋อ.. จะบอกว่าตัวเองอายุ 18 งั้นเหอะ T_T

Yim S. กล่าวว่า...

ตอนแรกจะบอกว่าพี่ปอย 34 ^ ^
แต่คิดไปคิดมา เออ...อายุ 18 ก็ไม่เลว
หน้าให้อยู่ ๆ